วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

In tro #เจ้าของร้านขนมหวานคนนั้นชื่อลู่หาน


อนึ่ง : นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการ 
และมีเนื้อหาไม่เหมาะสมในบางช่วงบางตอน
 โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน





โปรดติดแท็กในทวิตเตอร์ #เจ้าของร้านขนมหวานคนนั้นชื่อลู่หาน





ข่าวการเสียชีวิตของภรรยาเจ้าของกิจการโรงแรมในเครือตระกูลโอ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีความหรูหราและใหญ่โตที่สุดในกรุงโซล อีกทั้งยังมีกิจการรีสอร์ทรวมถึงโรงแรมในเครือที่อยู่ต่างจังหวัดอีกมากมาย ได้ถูกนำเสนอเกือบจะทุกสื่อ ที่สำคัญยังมีการขุดคุ้ยปมการเสียชีวิตของเหล่านักข่าว คาดว่าจะเป็นกระแสวิพากษ์วิจารนานนับเดือนกว่าที่กระแสข่าวจะเงียบลง ทุกคนที่อาศัยภายในคฤหาสน์ตระกูลโอถูกสั่งให้ปิดปากเงียบ หากไม่ใช่นั้นโออินซองจะไล่ออก และหากว่าใครให้เบาะแสกับนักข่าวเขาก็จะสั่งเก็บคนผู้นั้นทันที โออินซองได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในวันฝังศพภรรยาว่าเธอหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ผิดกับภาพที่นักข่าวถ่ายได้ตอนโอเซฮุนผู้เป็นลูกชายอุ้มมารดานำส่งเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีคณะแพทย์และบุรุษพยาบาลมากมายคอยช่วยเหลือ และที่น่าสงสัยคือบริเวณข้อมือของหญิงวัยกลางคน มีรอยกรีดให้เห็นเด่นชัด เลือดสีแดงสดไหลตกกระทบพื้นเป็นทางยาว บางส่วนก็เปื้อนเสื้อผ้าของลูกชาย
             




โอเซฮุนแสยะยิ้มมุมปาก หลังจากดูละครฉากใหญ่ที่พ่อให้สัมภาษณ์แก่นักข่าว ร่างสูงหยิบรีโมทใกล้มือขึ้นมาจัดการปิดทีวี เมื่อไม่อาจจะทนดูได้อีกต่อไป เขาไม่ได้ไปร่วมงานฝังศพของมารดาเพราะยังทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ แม่เขาต้องตายก็เพราะความมักมากของพ่อ เรื่องนี้มันเข้าทำนองหญิงร้ายชายเลว ถึงแม้ผู้หญิงคนนั้นจะหนีออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วก็เถอะ แต่มันชดใช้สิ่งที่เขาต้องสูญเสียไม่ได้เลยสักนิด ผู้หญิงคนนั้นสมควรตายไม่ใช่แม่ผู้แสนดีของเขา.... แม่ของเขาอุตส่าห์รักและไว้เนื้อเชื่อใจผู้หญิงเลวคนนั้น ทว่าสุดท้าย...กลับโดนคนที่ตัวเองรักทั้งสองคนหักหลัง
            




 “หึ...”

             






















หนึ่งเดือนหลังจากนั้น
            




 โอเซฮุนไม่ชอบเลยที่ต้องมาทนเห็น คนที่ตัวเองเกลียดเรียนห้องเดียวกับเขา ก็นะถ้าไม่ได้ทุนเรียนดี คนอย่างนั้นคงไม่มีวาสนาได้เข้ามาเรียนร่วมมหาวิทยาลัยกับเขาเด็ดขาด นักศึกษามากมายกำลังนั่งเรียนกันอย่างตั้งอกตั้งใจ ผิดจากเขาและกลุ่มเพื่อนลิบลับ มีอย่างเดียวละมั้งสำหรับวันนี้ที่ทำให้เขาคลี่ยิ้มได้อย่างสนิทใจโดยไม่ต้องฝืน จื่อวีดาวคณะอักษรเป็นผู้หญิงที่เขากำลังสนใจ เธอตอบแชทเขากลับมา เขาคิดว่าเธอไม่ง่ายเหมือนคนอื่นๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาลงทุนขอเบอร์เธอด้วยตัวเองต่างจากทุกครั้ง เพราะเพียงแค่เขากระดิกนิ้วก็มีสาวๆอยากเสนอตัวให้เขาเป็นทิวแถว
            




 “จริงจังเหรอวะ?”ปาร์คชานยอลเพื่อนร่วมกลุ่มเอ่ยปากถาม หลังแอบเหล่มองเพื่อนคุยแชทกับสาวสวยต่างคณะพักนึง
             




“เปล่า”ละสายตาจากจอสมาร์ทโฟน เงยหน้าขึ้นตอบเพื่อนสนิท
             




“ก็ว่า คนอย่างมึงไม่น่าจะจริงจังกับใครง่ายๆ”
            




 “กูไม่อยากจริงจังกับใคร ไม่อยากเจ็บเหมือนกับที่แม่กูเขาต้องเจ็บ”
             




“เฮ้ยเรื่องมันผ่านมาแล้วนะเว้ย”
             




“มึงคิดว่าแผลในใจกู มันจะลบได้เหรอวะ”
             




“....”
             




“มึงไม่เจอกับตัว มึงไม่รู้หรอกชานยอล”ชานยอลอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าการยึดติดอยู่แบบนี้ ไม่มีทางเลยที่โอเซฮุนจะมีความสุขได้ เขาไม่อยากให้เพื่อนจมอยู่กับความทุกข์เหมือนเช่นทุกวันนี้ จะยิ้มก็ยิ้มได้ไม่สุด จะร้องไห้ก็ร้องไม่ได้ มันทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็นเสียอีก

             























หลังจากเลิกคลาส มันก็เหมือนเช่นทุกครั้ง เสียงหัวเราะมากมายดังขึ้นทั่วทั้งห้องเรียน
             




“เช็ดสิ ใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอเช็ดรองเท้าให้ฉันสิลู่หาน!”ร่างสูงสั่งไขว่ห้างพลางกระดิกเท้า ใบหน้าหยิ่งยโสไม่เคยเปลี่ยน ร้องเท้าหนังสีดำของชายหนุ่มมีรอยฝุ่นเพียงนิด ลู่หานลอบถอนหายใจ อีกฝ่ายตั้งใจหาเรื่องกลั่นแกล้งเขาอีกแล้วสินะ
             




“...”
            




 “อย่าลืมสิว่าตัวเองเป็นแค่คนใช้! ถ้าเธอไม่ทำฉันแฉเรื่องของแม่เธอแน่!!”ลู่หานกับแม่ของมันมาสมัครงานเป็นคนใช้ที่บ้านของเขา ตอนนั้นเขาเรียนอยู่ปีหนึ่ง และตอนนี้ก็ครบสี่ปีแล้วที่มันมาอาศัยร่วมชายคาเดียวกับเขา ตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าคนใช้สองแม่ลูก เขาก็ไม่ถูกชะตาพวกมันแม้แต่น้อย ยิ่งได้เห็นสายตาเจ้าชู้ของพ่อยามมองแม่ของลู่หาน ก็เขาก็ยิ่งทวีความเกลียดชังพวกมันทั้งคู่ สัญชาติเขามันผิดเสียที่ไหนกันล่ะ เหอะ!
            




 “มันจะมากเกินไปแล้วนะเซฮุน ฉันทนเห็นนายแกล้งเพื่อนฉันไม่ไหวแล้ว!”โดคยองซูดึงลู่หานให้ยืนหลบหลังตน ร่างเล็กจ้องหน้าโอเซฮุนอย่างไม่พอใจ
            




 “หึ...ลู่หานเป็นคนใช้ของบ้านฉัน ฉันจ่ายเงินเดือนให้เพื่อนของเธอนะคยองซู แล้วลู่หานน่ะต้องรับใช้ฉันทุกที่ หากฉันต้องการ”
            




 “พอเถอะคยองซู ไม่เป็นไรหรอก...คุณเซฮุนเขาพูดถูก เราเป็นคนใช้ของเขา เขามีสิทธิ์สั่งงานเรา”
             




“ลู่หาน! ทำไมต้องยอมหมอนี่ตลอด! มองอะไรถ่อยไปสิ!”คนตาโตเดินออกไปจากห้อง ฝ่าฝูงนักศึกษาที่มุงดูเหตุการณ์ด้วยอารมณ์หงุดหงิด หลังต่อว่าลู่หานผู้เป็นเพื่อนรักจบ ผิดด้วยเหรอที่ตนไม่อยากเห็นเพื่อนเป็นตัวตลกให้คนพวกนั้นหัวเราะเยาะ
             




“ทุเรศไม่เคยเปลี่ยนเลยนะลู่หาน”ร่างเล็กชะงักมือที่กำลังบรรจงเช็ดรองเท้าให้คนบนเกาอี้ ลู่หานแหงนเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่ม ก่อนจะรีบเสมองไปทางอื่น เซฮุนยกยิ้มดูถูก ชายหนุ่มก้มมองบุคคลที่กำลังคุกเข่าเช็ดรองเท้าให้เขาด้วยแววตาเกลียดชัง
             




“...”
             




“เลิกเรียนแล้วไปเจอฉันที่ลานจอดรถหลังตึกA
             




“แต่ว่า...”เมื่อเซฮุนจ้องเขม็งมา ลู่หานก็รีบก้มหน้างุดมองพื้น
             




“เธอกล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ”
             




“เปล่าครับ”
             




“ดี! เพราะถ้าเธอขัดคำสั่งฉันเมื่อไหร่ เราสองคนคงได้เห็นดีกันแน่ลู่หาน แม่เธอทำให้แม่ของฉันและฉันผิดหวังมาแล้วครั้งนึง หวังว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอีกคน”
           
            
























 เราเงยหน้าขึ้นมองพัดลมที่ถูกติดตั้งบนเพดานอย่างไร้จุดหมาย ภายในโรงแรมม่านรูดชานเมืองแห่งหนึ่ง ก่อนจะหลับตาลงขณะที่น้ำตายังคงหลั่งริน เรากำผ้าปูที่นอนระบายทุกสิ่งทุกอย่างลงไปกับมัน ทั้งความเจ็บปวดจากการถูกรุกรานที่ช่องทางด้านหลังอย่างไม่คิดปราณีร่วมชั่วโมง ไหนจะคำสบถด่าทอของคนด้านบนที่กำลังรังแกร่างกายของเราอยู่ จริงๆเราเองก็เกลียดเขาไม่ต่างจากที่เขาเกลียดเรากับแม่ ถ้าวันนึงเราเก็บเงินได้สักก้อน เราจะไปจากบ้านของคุณเซฮุน เราอยากเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
             




“อ๊า..อ๊ะ”เราเกลียดเสียงครางของตัวเองที่สุด ไม่อยากจะโอนอ่อนไปกับสัมผัสที่แสนน่ารังเกียจ ทว่ากลับพ่ายแพ้โอเซฮุนเสียทุกครั้งไป ครั้งแรกที่เราโดนเซฮุนข่มขืน คือเมื่อเดือนก่อน กระทั่งเลยเถิดมาจนถึงทุกวันนี้ เรารู้ว่าเขาคงอยากเอาคืนเรื่องคุณนายโอ ตอนนั้นเราเองก็เสียใจมากกับทุกเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เรื่องแย่แบบนี้ แม่เราหนีไปหลังจากทราบว่าคุณนายฆ่าตัวตาย ทุกวันนี้แม่ก็ยังไม่ติดต่อกลับมาหาเราสักครั้ง
             




“เธอกับแม่ของเธอมันน่าสมเพชลู่หาน!”เขาสบถด่าพร้อมทั้งกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่างกายเราอย่างป่าเถื่อนเป็นครั้งสุดท้าย กลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้อง เราหวีดร้องเสียงดังลั่น จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นสลบไปนานแค่ไหน ได้สติอีกทีก็ตอนที่คุณเซฮุนเธอโยนเสื้อผ้าใส่หน้าเรา
            




 “รีบแต่งตัวซะ จะนอนอ่อยฉันไปถึงเมื่อไหร่!
            




 “....”ถึงจะลืมตาตื่นได้ไม่เต็มตา แต่คำพูดของคุณเซฮุนมันทำให้เราต้องรีบส่ายหน้าพัลวัน เราใช้ผ้าห่มห่อตัว ก่อนจะเดินกระเผลกไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างคราบสกปรก ทุกย่างก้าวของเรามันเต็มไปด้วยน้ำตา

             























 
และแล้วสิ่งที่เรากลัวก็เกิดขึ้น เราท้องกับคุณเซฮุน คุณท่านทราบเรื่องก็ทะเลาะกับคุณเซฮุนใหญ่โต ถึงขั้นไล่ลูกชายออกจากบ้าน ถึงแม้ว่าท่านจะพูดประชดก็เถอะ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้คุณเซฮุนเธอโกรธพ่อของเธอรวมทั้งเรามากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เวลาเกือบเที่ยงคืนคุณเซฮุนมาเคาะประตูห้องเรา หลังจากเราเปิดประตู สิ่งแรกที่เราได้รับคือฝ่ามือของคุณเซฮุนที่ฟาดลงบนแก้มข้างขวาของเราเต็มๆแรง
             




“จงใจจะทำให้ฉันตกต่ำไปกับเธอรึไง!
             




“ฮึก..ฮื่อ เปล่านะครับ ลู่ไม่เคยคิดอย่างที่คุณพูดด้วยซ้ำ”แนบฝ่ามือของตัวเองลงบนซีกแก้มที่เพิ่งโดนทำร้าย ขณะสบตาร่างสูง
             




“กินยานี่ซะ ถ้าเรื่องนี้จบฉันจะให้เงินเธอไปตั้งตัว”เราลังเลอยู่สักพักก็ตัดสินใจยื่นมืออกไปรับกล่องยาสีขาวจากมือคุณเซฮุน
             




“ลูกของฉัน...ต้องไม่มีแม่เป็นคนชั้นต่ำอย่างเธอ เพราะฉะนั้นรีบจัดการมันซะให้เรียบร้อยล่ะ”
             




“....ครับ”
             




“ถ้าเธอดื้อกับฉันและดึงดันเก็บมันไว้ละก็ ฉันนี่แหละจะทำให้มันตายทั้งเป็นเอง มันกับเธอได้ตกนรกทั้งเป็นแน่คอยดูสิ! อย่าเอาไอ่มารหัวขนในท้องของเธอมาเป็นตัวถ่วงชีวิตฉันเด็ดขาด! เข้าใจไหมลู่หาน!!
             




“ฮึก...”
             




“ถ้าเธอกินยาครบชั่วโมงแล้วโทรมาหาฉัน ฉันจะพาเธอส่งโรงพยาบาล ถือว่าสงเคราะห์ ไม่งั้นเธอได้นอนตายอยู่ในห้องนี้แน่”
            









 เรานั่งมองยาเม็ดโตสีเลือดหมูบนฝ่ามืออยู่นานพอสมควร อ่านใบฉลากที่ติดมาในกล่องด้วยจนรู้ว่ามันเป็นยาสลายก้อนเลือดและทำให้เด็กในท้องตาย เราว่ามันต้องไม่ใช่ยาที่ถูกกฎหมายแน่นอน ตัดสินใจนำเม็ดยาเข้าปาก เมื่อคิดว่าตัวเองได้ตริตรองดีแล้วทุกอย่าง
  




“หึก...โอกกกกกก!!!”คนตัวเล็กวิ่งไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำ
              




“ฉันขอโทษ...ที่คิดจะฆ่าหนู ขอโทษจริงๆที่คิดจะทำบ้าๆแบบนั้น ทั้งๆที่หมอบอกแม่ว่าหนูมีหัวใจแล้ว ฮรึก แม่ขอโทษ”











..........................
#เจ้าของร้านขนมหวานคนนั้นชื่อลู่หาน
ขอบคุณสำหรับการติดตาม 
ตอนหน้าจะมีการปรับเนื้อหาเล็กน้อย
กรุณากลับไปเม้นท์  http://writer.dek-d.com/ayeyep/story/viewlongc.php?id=1420461&chapter=1









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น