ผมเคยคิดว่าชีวิตผมคงจะจบอยู่แค่เพียงลู่หานคนเดียว อาชีพสถาปนิกอย่างผมทำงานที่ออฟฟิศเสร็จก็กลับมานอนพักที่คอนโด
บางวันก็ต้องหอบหิ้วงานกลับมาทำต่อ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเวลาเที่ยวกลางคืน
เมื่อสองปีก่อนผมและลู่หานตัดสินใจย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกันหลังจากที่เขาเรียนจบหมอ
ความรักของเราก่อตัวขึ้นจากการเป็นเพื่อนและเป็นผมที่คิดไม่ซื่อกันเขาก่อน ในวันที่พวกเรากำลังจะจบมัธยมปลายไม่รู้ว่าผมไปเอาไอ้ความใจกล้าบ้าบิ่นมาจากไหนถึงได้เดินเข้าไปสารภาพรักกับเขาในห้องเรียน
(ผมกับลู่หานเรียนกันคนละห้องน่ะนะ เขาอยู่ห้องเด็กเกรดเอหัวกะทิ
ส่วนผมอยู่ห้องกลางๆผลการเรียนก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมาก
ส่วนใหญ่จะเน้นช่วยกิจกรรมของโรงเรียน) ลู่หานและเพื่อนรวมชั้นเรียนคนอื่นๆนิ่งเงียบไปสักพัก
และสุดท้ายเขาก็เอ่ยปฏิเสธผมนั่นทำให้ผมอกหักเป็นครั้งแรก
แต่ผมก็ยังไม่หยุดตื้อเขาหรอกนะ ในตอนนั้นผมคิดว่าผม...รักเขา
หรือไม่ก็คงจะชอบเขาเอามากๆ
กระทั่งพวกเราเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและโชคดีมากที่ผมสอบติดที่เดียวกับลู่หาน
เขาเลือกเรียนแพทย์ ส่วนผมเลือกเรียนสถาปัตย์ คณะผมกับเขาอยู่ห่างกันมากครับแต่ผมก็พยายามอีกนั่นแหละ
ผมพยายามจีบเขาทุกวิถีทาง ใครเข้าจีบเขาก็เป็นผมนี่แหละที่คอยกันท่าเสียทุกครั้งไป
แถมยังชอบแสดงความเป็นเจ้าของเขาอย่างออกนอกหน้า จนกระทั่งวันนึงลู่หานเขาทนไม่ไหว
ผมเลยโดนเขาตบหน้าแรงๆไปครั้งนึง นั่นทำให้สติของผมกลับมาได้บ้างว่าพวกเราสองคนยังคงเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น
ไอ้การรุกจีบเขาไปเสียทุกทางลู่หานคงไม่ชอบ อย่างว่าละนะคงไม่มีใครชอบผู้ชายช่างตื้อและหน้าด้านหน้าทนอย่างผม
ผมโดนลู่หานปฏิเสธหลายครั้งมาก จนวันนึงผมก็มานั่งคิดกับตัวเองว่า...ผมยังรักและชอบลู่หานเขาอยู่ไหม
หรือผมแค่ต้องการอยากเอาชนะเขา อยากได้เขามาครอบครอง อยากย่ำยีหัวใจของเขาบ้าง ทว่าเมื่อผมถามใจตัวเองคำตอบของผมมันคือรัก
ผมยังคงรักลู่หานไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าเขาจะใจร้ายกับผมมากแค่ไหน
ช่วงที่กำลังจะขึ้นปีสี่ผมได้หายออกไปจากชีวิตของลู่หาน
ตอนนั้นผมทั้งเหนื่อยและท้อสุดๆ มีผู้หญิงหลายคนเข้ามาเสนอตัวให้ผมตั้งมากมายแต่ผมก็ไม่ได้ตอบรับไมตรีของพวกหล่อนเลยสักคน
เพื่อนสนิทผมไอ้ชานยอลมันชอบด่าผมประจำว่าผมมันบ้า ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้วก็ยังจะตื้อลู่หานอยู่ได้
อีกทั้งมันยังชอบพูดกับผมบ่อยๆว่าสุดท้ายแล้วลู่หานเขาคงไม่มีทางหันชายตามาแลผมหรอก
ผมก็ไม่เข้าใจว่าผมมันแย่ตรงไหนทั้งหน้าตาทั้งฐานะผมคิดว่าผมสามารถดูแลเขาได้ดี ผมแทบจะนึกไม่ออกว่าตัวเองนั้นไม่คู่ควรกับเขาตรงไหน
ในวันนึงผมก็ได้รับข่าวจากเพื่อนของลู่หานว่าเขาประสบอุบัติเหตุ
ผมรีบเดินทางไปเยี่ยมเขาทันที นานหลายวันกว่าที่เขาจะฟื้น หมอบอกกับผมและแม่ของลู่หานว่าลู่หานขาหักและมีบาดแผลตามร่างกายหลายจุด
ช่วงนั้นผมช่วยคุณป้าดูแลลูกชายเธอไม่ห่างเลย จึงทำให้ได้คะแนนจากครอบครัวของอีกฝ่ายเต็มๆ
อีกทั้งคุณป้ายังเห็นดีเห็นงามให้ผมจีบลูกของเธอเต็มที่ พอผมใกล้เรียนจบผมกับลู่หานก็ได้ตกลงคบกันเป็นแฟน
ผมไม่รู้นะว่าเขารักผมบ้างไหม เพราะผมเองก็ไม่เคยเอ่ยปากถามเขา
เหมือนกับว่าลู่หานเขาจะคล้อยตามแม่ของเขาที่อยากให้คบกับผม หลังจากลู่หานเรียนจบหมอแม่ของผมก็เข้าไปจัดการสู่ขอลู่หานให้ผม
พวกเราสองคนมีแพลนที่จะจัดงานแต่งงานตอนที่พวกเราอายุย่างยี่สิบเจ็ด และเชื่อไหมจนป่านนี้แล้วผมก็ยังไม่เคยได้ทำมากไปกว่าจับมือเขาทั้งๆที่เราอยู่คอนโดเดียวกัน
ที่สำคัญอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าผมและเขากำลังจะแต่งงานกันอยู่รอมร่อ ผมเข้าใจว่าลู่หานเป็นคนที่ค่อนข้างถือตัวแต่ผมไม่คิดว่าเขาจะแสดงท่าทีหมางเมินกับผมขนาดนี้ทั้งๆที่พวกเราเป็นแฟนกัน
ยิ่งนานวันเข้าผมกลับรู้สึกห่างเหินกับเขามากขึ้นทุกที
“นี่เซฮุน!
ถ้านายจะทำงานน่ะ ช่วยไปนั่งทำที่โซฟาข้างนอกได้ไหม แสงไฟมันเข้าตาเรา
เรานอนไม่หลับ พรุ่งนี้เราต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า”ร่างเล็กแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์มากขึ้นหลังได้ยินร่างสูงเอ่ยน้ำเสียงราวประชดกลับมา
โอเซฮุนไม่เข้าใจบ้างรึไงว่าแสงไฟมันเข้าตาเขา เขานอนไม่หลับจริงๆนะ
ไหนพรุ่งนี้จะต้องตื่นไปทำงานที่โรงพยาบาลแต่เช้าอีก
ถ้าเขาพักผ่อนไม่เพียงพอแล้วเขาต้องป่วยเพราะอีกคนเนี่ยเขาไม่ยอมจริงๆด้วย
“...อืม ขอโทษล่ะกันที่งานของฉันมันรบกวนเวลานอนของเธอ”
“เรารู้ว่านายประชดเรา
อย่ามาพูดแบบนี้กับเราอีก ไม่งั้นเราจะกลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน!”ร่างสูงหมุนตัวกลับมาสบตาร่างเล็กที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงขนาดใหญ่
เอาจริงๆนะเขายังรักลู่หานอยู่เปล่า ณ ตอนนี้เขาตอบตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
สีหน้าเกรี้ยวกราด แววตาดุดันที่แสดงออกชัดเจนว่ากำลังโกรธเคืองเขาอีกแล้ว
นับวันเขาก็ยิ่งรู้สึกชิงชัง
เขาเกลียดดวงตาของลู่หานยามที่มองมาที่เขาราวกับไม่รู้สึกอะไร
ราวกับว่าเขาไม่ได้สละสำคัญอะไรกับอีกฝ่ายแม้แต่น้อย นับวันมันยิ่งชัดเจนว่าลู่หานไม่ได้รักเขาเลย
ถ้าไม่ได้รักกันแล้วทำไมถึงยอมมาอยู่กับเขา ยอมตกลงแต่งงานกับเขา ทำไมกันลู่หาน?
“จะจ้องหน้าเราอีกนานไหม
ง่วงจะนอน! อ๋อปิดไฟให้เราด้วยล่ะ”คนตัวเล็กขมวดคิ้ว
นี่เซฮุนจะจ้องหน้าเขาอีกนานแค่ไหนเนี่ย เขาง่วงนอนนะ ง่วงมากด้วย
ไม่อยากเสียเวลามาทะเลาะกับอีกฝ่ายกลางดึกแบบนี้ ลู่หานล้มตัวลงนอนก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงหลีกหนีแสงไฟ
“ฝันดีลู่หาน”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วทั้งสายตายังมีแต่ความน้อยใจขณะจดจ้องไปที่คนนอนหลับ
เซฮุนตัดสินใจหอบงานออกไปทำนอกห้อง
“นี่ดูเสื้อตัวนี้ดิสวยอะแก
แกน่าจะซื้อให้ผัวแกนะ ดูมันเหมาะกับเซฮุนเขามากๆเลย”
“เขายัง...ไม่ใช่สักหน่อยแค่แฟนเถอะ เธอนี่จริงๆเลยไอรีน”เบจูฮยอนลากลู่หานเข้ามาในร้านเสื้อผ้าผู้ชายร้านนึงซึ่งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าหรูหลังจากที่พวกเขาทานข้าวและดูหนังด้วยกันเสร็จ
ลู่หานพิจารณาเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำยี่ห้อแบรนด์เนมที่เบจูฮยอนกำลังจับอยู่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง
ใช่...ถ้าเซฮุนใส่เสื้อตัวนี้มันต้องเข้ากับอีกฝ่ายมากแน่ๆ แถมช่วงนี้ฝ่ายนั้นก็งานยุ่งจนไม่มีเวลาช็อปปิ้งเลือกซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ๆเลย
“ไหนๆก็ใกล้วันเกิดเซฮุนเขาแล้วนะลู่
ซื้อเป็นของขวัญให้หมอนั่นเหอะ”
“ไม่ดีกว่าเราว่ามันไร้สาระแล้วก็สิ้นเปลืองด้วย
แค่ทานข้าวด้วยกันสักมื้อมันน่าจะพอแล้วนิ”ลู่หานเดินออกมาจากร้านท่ามกลางสายตาแสนละห้อยของเบจูฮยอนและพนักงานขาย
“แกทำตัวแกเองนะลู่หาน ถ้าเขาทิ้งแกขึ้นมาสักวัน
ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าแกจะเป็นยังไง”เธอไม่เข้าใจเลยทำไมโอเซฮุนถึงได้ยื้อลู่หานเอาไว้
ทั้งๆที่เพื่อนของเธอก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้รักหมอนั่นสักนิด
“คุณลูกค้าจะซื้อเสื้อตัวนี้ไหมคะ?”หญิงสาวใบหน้าสะสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆละสายตาจากแผ่นหลังของเพื่อนสนิทที่ยืนรอเธออยู่นอกร้านก่อนจะหันมาพยักหน้าให้พนักงานขาย
“ค่ะ
ฉันซื้อตัวนี้”
ลู่หานเปิดประตูห้องตรวจออกมาก็พบว่าโอเซฮุนกำลังยืนอยู่แถวเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
ลู่หานเห็นชายหนุ่มพูดคุยกับจูฮยอนซึ่งอยู่ในชุดพยาบาลอย่างออกรสออกชาติ ดูท่าทางทั้งสองคนจะพูดคุยกันถูกคอดีจนเขาไม่อยากเดินเข้าไปขัดจังหวะ
“อ้าวนั่นไงค่ะลู่หาน เซฮุนเขามารอรับนายกลับน่ะ”ร่างสูงเบือนสายตาจากพยาบาลสาวสวยมาวางสายตาที่ร่างเล็กซึ่งอยู่ในเสื้อกาวน์สีขาว
คนตัวเล็กสาวเท้ามาใกล้ชายหนุ่มก่อนจะหยุดยืนด้านหน้าของโอเซฮุน ดวงตากวางหม่นลงเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเสื้อที่เซฮุนใส่อยู่ในตอนนี้นั้นเป็นเสื้อที่เบจูฮยอนลากเขาไปซื้อ
ลู่หานเสตาไปมองจูฮยอนเล็กน้อย เขาเห็นเธอกำลังระบายยิ้มมาให้ทั้งเขาและเซฮุนอยู่
“วันนี้ฉันมารับเธอกลับคอนโด”นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาเปิดประตูห้องตรวจหลังเลิกงานมาแล้วไม่เจอโอเซฮุน...นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบสี่เดือนก็ว่าได้
“นายไม่น่าเสียเวลาเลยนะเซฮุน
ออฟฟิศนายกับโรงพยาบาลมันคนละทางกันเลย วันนี้ฉันคงกลับกับนายไม่ได้หรอก พอดีว่าพี่มินซอกเขาขอแลกเวรน่ะ
นายกลับไปเถอะ”
“....”ทั้งจูฮยอนและเซฮุนต่างก็เงียบไป
ร่างสูงทอดถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ชายหนุ่มพยายามเก็บอาการไม่ให้แสดงออกทางสีหน้า
วันนี้เขาอุตส่าห์ตั้งใจมารับลู่หานเพื่อไปฉลองวันเกิดของเขาด้วยกันที่คอนโด ก็ดี!
ทีหลังจะได้ไม่ต้องเสียเวลามารับลู่หานที่นี่อีก
เขาเองก็ผิดที่ไม่ได้ส่งข้อความมาถามลู่หานก่อนว่าวันนี้อีกฝ่ายเลิกงานตามเวลาปกติรึเปล่า
อาหารที่เขาตั้งใจทำไว้ก่อนออกมามันคงจะเป็นหมันเสียแล้ว
“เราขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะ”สายตาที่เซฮุนมองเขา เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจเขามาก
ลู่หานก้มหน้าหลบสายตาร่างสูงก่อนจะเดินจากคนทั้งสองมา ทีแรกเขากะจะชวนเซฮุนไปนั่งดื่มกาแฟด้วยกันก่อนที่อีกฝ่ายจะขับรถกลับคอนโดแต่พอเห็นแววตาที่อีกฝ่ายมองเขาแล้ว...เขาว่าเขาเลือกที่จะเงียบและเดินออกมาดีกว่า
“อยากไปทานข้าวกับฉันไหมไอรีน?”เอ่ยปากชวนหญิงสาวเมื่อเห็นว่าลู่หานเดินจากพวกเขาทั้งสองไปไกลแล้ว
“มันจะดีเหรอ เรากลัวลู่หานเขาจะโกรธเรา
ถ้าเราไปทานข้าวกับแฟนของเขาน่ะ”
“ลู่หานเขาไม่โกรธเธอหรอก แล้วเขาก็คงไม่ได้หึงอะไรฉันด้วย
ถือว่าฉันเลี้ยงขอบคุณเธอละกัน ฉันชอบเสื้อตัวนี้มากเลยไอรีน ขอบใจเธอนะ ที่...เธอไม่ลืมวันเกิดฉันเหมือนคนบางคน”สามวันก่อนเบจูฮยอนมาหาเขาที่ออฟฟิศ
เขาแปลกใจไม่น้อยเลยล่ะที่เห็นเพื่อนสนิทของคนรัก
แล้วก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นเมื่อเธอยื่นถุงของขวัญให้เขาพร้อมกับคำว่าสุขสันต์วันเกิดล่วงหน้า
เขากับเบจูฮยอนรู้จักกันมานานแล้วล่ะ ก็ตั้งแต่สมัยเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยนั่นแหละ
เขารู้จักเธอในฐานะเพื่อนของลู่หานส่วนเธอก็รู้จักเขาในฐานะคนที่ตามจีบเพื่อนสนิท
“ไม่เป็นไรหรอกเซฮุน”เบจูฮยอนระบายยิ้มอ่อนหวาน
นั่นเป็นครั้งแรกที่เซฮุนรู้สึกหวั่นไหวแปลกๆกับเพื่อนสนิทของคนรัก
00.15 น.
ลู่หานกลับเข้ามาที่คอนโดในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ
ร่างเล็กไขกุญแจเข้ามาแล้วพบว่าภายในห้องไม่ได้มีแค่โอเซฮุนแต่ยังมีหญิงสาวอีกคนอยู่ภายในห้องด้วย
เขาแปลกใจไม่น้อยที่เห็นเบจูฮยอนที่นี่ หญิงสาวหันมายิ้มให้เขาก่อนจะละสายตาไปที่จอทีวีซึ่งกำลังฉายภาพยนตร์แนวแอคชั่นดังเดิมโอเซฮุนคนรักของเขาก็เช่นกัน
ร่างสูงหันมามองเขานิดหน่อยก็หันกลับไปสนใจหน้าจอทีวีต่อ
ร่างสูงไม่ได้แสดงออกว่าดีใจที่เขาเปิดประตูเข้ามา มันก็เหมือนกับวันที่ผ่านๆมานั่นแหละ...เขาชินเสียแล้ว
ความรักของโอเซฮุนเหมือนจะเริ่มจากหนึ่งร้อยก่อนจะค่อยๆลดลงจนกระทั่งเหลือศูนย์หรือถ้าแย่กว่านั้นคือติดลบ
เขาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโอเซฮุนในตอนนี้มันกำลังเป็นอย่างนั้น
“ฉันกับเซฮุนแวะเช่าหนังมาดูด้วยกันน่ะ
วันนี้วันเกิดเขานะลู่หาน นายนี่แย่จริงๆที่จำไม่ได้ อาหารฝีมือแฟนนายอร่อยชะมัด
สงสัยว่าฉันต้องมาฝากท้องที่ห้องนายบ่อยๆเสียแล้วล่ะ”ลู่หานพยายามฝืนยิ้มให้เพื่อนสนิทที่เดินมาพูดกับเขาภายในห้องครัวขณะที่เขากำลังจะดื่มน้ำ
มันนานเป็นชาติแล้วมั้งที่หมอนั่นไม่ได้ทำอาหารให้เขาทาน
ร่างเล็กลองสอดส่ายสายตาดูก็พบกับถุงที่บรรจุเศษอาหารถูกทิ้งอยู่ภายในถังขยะ
ลู่หานสาวเท้าไปที่ห้องนอนอย่างเงียบๆ วันนี้เขาเหนื่อยมาก เขาอยากนอนพักเต็มแก่แล้ว
ดวงตากลมโตเหลียวไปมองถุงกระดาษที่วางอยู่ปลายเตียงเล็กน้อย
หลังจากจัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย คนตัวเล็กก็เดินมาล้มตัวนั่งแหมะตรงปลายเตียง
มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อเบจูฮยอนซื้อเสื้อตัวนั้นให้โอเซฮุนแทนเขาแล้ว วันนั้นหลังจากไปส่งเพื่อนสนิทที่บ้านของหล่อน
เขาตัดสินใจขับรถกลับมาที่ห้างอีกครั้งและซื้อเสื้อตัวนั้นกลับมาด้วย โดยตั้งใจจะให้โอเซฮุนเป็นของขวัญวันเกิดในค่ำคืนนี้
ทว่าตอนนี้มันคงไม่จำเป็นอีกแล้วล่ะโอเซฮุนคงไม่อยากได้มันอีกตัวหรอก
คนตัวเล็กนำถุงกระดาษไปใส่ในตู้เสื้อผ้าของตนเองก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงและล้มตัวนอน
02.30น.
“ถอยออกไป มันอึดอัดนะ!”กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ลอยคละคลุ้งพร้อมลมหายใจของร่างสูงนั้นทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าโอเซฮุนกำลังเมา
ลู่หานตะแคงตัวไปหาร่างสูงและถลึงตามองชายหนุ่มอย่างโกรธเคือง
ทว่าอีกฝ่ายกับไม่รู้ตัวสักนิดว่าเขากำลังไม่พอใจ
พอเขาได้เห็นหน้าเซฮุนชัดๆก็รู้ว่าอีกฝ่ายเมามาก ใบหน้าของเซฮุนแดงก่ำ แถมดวงตาก็เหมือนจะปิดไปแล้วครึ่งนึงแต่อีกฝ่ายก็ยังคงฝืนตัวเองกอดเขาไม่ยอมปล่อย
“ทำไมถึงทำ...อึก กับฉันแบบนี้...ลู่หาน”ลู่หานเอื้อมมือไปประคองใบหน้าร่างสูงไว้ สายตาของร่างเล็กที่มองชายหนุ่มนั้นเริ่มอ่อนลง
“...”
“เธอ..อึก...ไม่เคยรักฉันเลย”ใครว่าล่ะที่ไม่แสดงออก...ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักอีกฝ่ายสักหน่อย ถ้าไม่รักแล้วจะยอมตกลงแต่งงานกับนายเหรอเจ้าคนบ้าเอ้ย
แม่ของเขาชอบโอเซฮุนมากก็จริงแต่ท่านก็ไม่ได้ถึงขั้นบังคับให้เขาแต่งงานกับโอเซฮุนสักหน่อย...ตัวเขาเป็นฝ่ายสมัครใจเอง
เพราะเขารู้ว่าโอเซฮุนรักเขามากและคงจะดูแลเขาได้ดีที่สุด
ความพยายามของชายหนุ่มน่ะ...ใช่ว่าเขาจะไม่เห็นมัน เขาเห็นมันมาตลอด
เขาคิดว่าการกระทำมันสำคัญมากกว่าคำพูด เขาถึงได้ตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกับอีกฝ่ายอย่างไม่มีเงื่อนไข
แต่สำหรับโอเซฮุนคำพูดคงจะสำคัญมากกว่า...เขาควรจะทำเช่นไรดีโอเซฮุนถึงจะเข้าใจว่าเขารักอีกฝ่าย
ถ้าเขาบอกโอเซฮุนว่ารักตอนนี้ อีกฝ่ายจะเชื่อเขาไหม
“เซฮุน! นายจะทำอะไร
ปล่อยเรานะ!!”จู่ๆลู่หานก็โดนกดข้อมือไว้กับผืนเตียงหนำซ้ำยังโดนร่างสูงขึ้นคร่อมอีก
โอเซฮุนสบตาลู่หานในความมืดสลัว ร่างสูงพยายามสะบัดศีรษะขับไล่อาการมึนเมาทิ้งไป
เนี่ยนะเหรอคนที่เขาทุ่มเททุกอย่างให้...เนี่ยนะเหรอไอ้เซฮุน? ถ้าถามตัวเองตอนนี้ว่ายังรักคนๆนี้อยู่รึเปล่า...คำตอบคงจะเป็นคำว่าไม่
เขาทนใช้ชีวิตร่วมกับคนที่แสนน่าเบื่อแถมยังโคตรเย็นชาคนนี้ไปได้ยังไงกันวะ! เขาชอบคนๆนี้ไปได้ยังไง!!
“เหอะ!”ลู่หานคิ้วขมวดเข้าหากันฉับเมื่อได้ยินคนด้านบนสบถด้วยสีหน้าฉุนเฉียว
คนตัวเล็กพยายามที่จะดิ้นขัดขืนสุดกำลังแต่ด้วยพละกำลังของคนตัวโตที่มีมากกว่าทำให้เขาทำได้แค่เพียงส่งสายตามองชายหนุ่มด้วยความโกรธเท่านั้น
เซฮุนไม่เคยป่าเถื่อนกับเขาแบบนี้มาก่อนเลย หัวใจร่างเล็กกระตุกวูบ ลู่หานกำลังหวาดกลัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“อย่านะ!! ปล่อยเราเดี๋ยวนี้! นายอยากให้เราโกรธนายมากกว่านี้รึไง!”ร่างสูงก้มใบหน้าลงซุกไซร้ซอกคอขาวของร่างน้อยทั้งยังขบเม้มสร้างรอยช้ำไปทุกที่ที่ริมฝีปากของเขาลากผ่าน
อย่างน้อยๆลู่หานก็ควรตอบแทนน้ำใจของเขาบ้าง...ด้วยร่างกายของอีกฝ่าย
ให้สมกับที่เขาอุตส่าห์ทุ่มเทเพื่ออีกฝ่ายมาตลอดหลายปี
เขาเสียเวลากับลู่หานมามากเกินพอแล้ว วันนี้คือวันแตกหักของพวกเรา...
พรุ่งนี้จะไม่มีคำว่าเราระหว่างเขาและลู่หานอีกต่อไป
“อ๊ะ!! เราเจ็บ...นายได้ยินเราไหม
เราเจ็บ ฮื้อ...เซฮุน อ๊า!”เสือกไสแท่งร้อนขนาดใหญ่เข้ามาโดยที่ไม่ทำการเบิกทางใดๆทั้งสิ้นก่อนจะกระแทกแรงๆใส่ร่างน้อยไม่ยั้ง
เลือดที่ไหลเพราะการฉีกขาดช่วยให้การสอดใส่ง่ายขึ้นแต่นั่นกลับยิ่งสร้างความทรมานให้ร่างเล็กเป็นทวีคูณ
ที่เขาหวงตัวกับเซฮุนเพราะเขาอยากมอบร่างกายนี้ให้เซฮุนได้เชยชมในวันแต่งงานแต่ทำไมวันนี้มันถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ไปเสียได้...
ลู่หานหลับตาลงพยายามข่มความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
ฟันเรียงสวยขบงับที่ริมฝีปากล่างจนช้ำเลือดด้วยเพราะความทรมาน
“อาาาา”คนตัวเล็กเชิดคอขึ้นมองเพดานห้อง
เส้นผมสีน้ำตาอ่อนกระจายทั่วหมอน ในหัวของเขาช่างว่างเปล่าไร้ความคิดใดๆ ลู่หานได้ยินเพียงเสียงครางที่หลุดออกมาจากกลีบปากซีดๆของร่างสูงที่ยังคงกระแทกกายใส่ช่องทางด้านหลังของเขาโดยที่ไม่ได้ผ่อนแรงลงแม้แต่นิดเดียว
หยาดน้ำสีใสไหลรินจากดวงตาสวยแสนบอบช้ำตกกระทบลงบนหมอนที่ร่างเล็กหนุน โอเซฮุนไม่ได้ใส่ใจเขาเลยสักนิดอีกฝ่ายคงไม่สังเกตด้วยซ้ำว่าเขาทั้งเลือดออกและกำลังร้องไห้
ไม่นานนักลู่หานก็หลุดครางออกมาเมื่อชายหนุ่มก้มลงใช้ลิ้นละเลงดูดเลียยอดอกของเขา แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นจากผืนเตียงด้วยความเสียวซ่านที่ผสมปนเปพร้อมความเจ็บปวด
“ฮึก ฮื้อ พอสักที...ได้โปรด”ภาวนาขอให้มันจบลงเร็วๆแต่ดูเหมือนอะไรๆจะไม่เข้าข้างเขาเลย
เซฮุนเมื่อปลดปล่อยครั้งแรกแล้วอีกฝ่ายก็จับเขาให้พลิกตัวนอนคว่ำ
ชายหนุ่มยกสะโพกของเขาขึ้นแล้วทำการสอดใส่เข้ามาใหม่อีกครั้ง
เลือดสีสดไหลอาบท่อนขาร่างเล็กเปรอะเปื้อนที่นอน
กลิ่นคาวของเลือดและกลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง ซีกแก้มของลู่หานข้างนึงแนบผืนเตียงขณะที่มือเรียวทั้งสองข้างขยุ้มผ้าปูที่นอนไว้แน่น
ความเจ็บปวดเสียใจถูกกลั่นกรองออกมาเป็นหยาดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่า การมองเห็นของเขาเริ่มแย่ลงทุกขณะ
ดวงตาของเขามันร้อนผ่าวไปหมด เขาต้องทนรองรับอารมณ์ของโอเซฮุนไปจนถึงเมื่อไหร่...
2 อาทิตย์ผ่านไป
“แม่ว่าโรงแรมนี้ก็ดีนะลูกใกล้ที่ทำงานหนูลู่เขาด้วย
แขกจะได้เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงสะดวก”คุณนายโอเปิดหน้านิตยสารแนะนำโรงแรมส่งให้เซฮุนพิจารณาดูระหว่างที่เธอและลูกชายรวมถึงว่าที่ลูกสะใภ้กำลังทานข้าวด้วยกันภายในร้านอาหาร
โรงแรมAมีความเหมาะสมที่จะใช้จัดงานเลี้ยงฉลองหลังเสร็จสิ้นพิธีในโบสถ์ที่สุด
“แม่ครับ...ผมตัดสินใจแล้ว
เรื่องงานแต่งงานระหว่างผมกับลู่หาน”คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารที่ไม่ได้พร่องลงไปเลยสักนิดมามองหน้าร่างสูง
มือเรียวที่วางอยู่บนหน้าตักจิกกำเข้าหากันทันทีอย่างไม่รู้ตัว
นับตั้งแต่คืนนั้นโอเซฮุนก็มีท่าทีหมางเมินเขามากขึ้นทั้งๆที่เขาเป็นเมียของชายหนุ่มแล้วแถมบางคืนโอเซฮุนก็ไม่กลับเข้ามาที่คอนโดและเมื่อเขาโทรตามอีกฝ่ายก็ตัดสายทิ้งทุกครั้ง
“ลูกจะขอเลื่อนวันจัดงานให้เร็วขึ้นละสิเซฮุน
ไม่ต้องใจร้อนหรอกน่า ยังไงซะลูกของแม่ก็ได้สวมแหวนแต่งงานให้หนูลู่เขาอยู่แล้ว”หญิงวัยกลางคนระบายยิ้มเอ็นดูลูกชาย
รอยยิ้มของเธอค่อยๆมลายหายไปเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของลูกชาย
“เปล่าครับแม่
ผมจะบอกแม่ว่า...ผมไม่อยากแต่งงานกับลู่หานแล้ว เรายกเลิกมันเถอะนะครับ”นี่คงเป็นเหตุผลที่โอเซฮุนพยายามถอยห่างจากเขา
ถ้าอีกฝ่ายอยากออกไปจากชีวิตของเขานัก...เขาจะไม่ยื้อชายหนุ่มไว้เช่นกัน
“แกพูดอะไรออกมาเนี่ยเซฮุน! หนูลู่เขาจะเสียใจแค่ไหน ไอ้เจ้าลูกคนนี้นิ”
“ช่างเขาเถอะครับคุณแม่
ถ้าเขาไม่อยากแต่งงานกับลู่ ลู่ก็ไม่อยากไปบังคับจิตใจเขา ลู่ขอตัวลานะครับ”เซฮุนกระตุกยิ้มขณะมองร่างเล็กโค้งตัวลามารดาของเขา คนตัวเล็กเดินออกไปจากร้านอาหารโดยไม่หันมามองหน้าเขาสักนิด
เธอคงจะโมโหแล้วก็อับอายมากละสิลู่หาน
เป็นยังไงบ้างล่ะ...เวลาที่โดนคนอื่นปฏิเสธจนหน้าชาน่ะ
“แกจะไปหาคนดีๆแบบหนูลู่ได้ที่ไหนอีกห๊ะ
ฉันไม่เข้าใจแกเลยตาเซฮุน!”
“แม่ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่มีเมียหรอกครับ
ตอนนี้ผมเจอคนที่เหมาะสมกับผมมากกว่าลู่หานแล้ว รับรองครับแม่ต้องชอบเธอ”เขามั่นใจว่าแม่ของเขาต้องชอบเบจูฮยอน
ผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างมากกว่าคนเย็นชาอย่างลู่หาน
ลู่หานตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแม่ของเขาดังเดิมได้เกือบจะครบสองเดือนแล้วในเมื่ออนาคตที่เคยวาดฝันไว้กับโอเซฮุนพังทลายลงไป
ลู่หานยังคงใช้ชีวิตเป็นปกติ เขาทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ไม่ได้ไปปาร์ตี้อะไรที่ไหน
ทว่ามีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นคือความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเบจูฮยอน เมื่อเดือนที่แล้วเบจูฮยอนสารภาพกับเขาว่าเธอกำลังคบหาดูใจกับอดีตคนรักของเขาที่สำคัญพวกเขาทั้งสองกำลังจะหมั้นหมายกัน
และแน่นอนเขาคงไม่หน้าหนาเข้าไปร่วมแสดงความยินดีภายในงานเลี้ยงฉลองเด็ดขาด คุณหมอร่างเล็กยิ้มเฝื่อนกับตัวเองเมื่อนึกถึงอดีตคนรักและเพื่อนสนิทที่หักหลังเขา
ลู่หานพาลนึกย้อนไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนที่โอเซฮุนมาดักรอเขาที่โรงพยาบาล
“นายไม่มีทางได้หัวใจฉันไปเป็นครั้งที่สอง
ไม่มีทาง...โอเซฮุน”
“มารับหมอลู่เหรอคะคุณเซฮุน
อะนั่นหมอลู่มาพอดีเลย”ให้ตายสิ...เขาไม่ควรเปิดประตูห้องตรวจออกมาตอนนี้เลย
ลู่หานส่งสายตาขอร้องให้พี่พยาบาลอยู่คุยกับโอเซฮุนต่อแต่ดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพยายามอ้อนวอนเธอผ่านดวงตา
อีกทั้งเธอยังเดินหนีไปไกลเพื่อให้เขาและโอเซฮุนได้พูดคุยกันสะดวก
เขาไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว คงไม่ผิดใช่ไหมหากว่าเขาจะเสียมารยาท
“เดี๋ยวสิจะรีบไปไหนล่ะ”ลู่หานก้มลงมองข้อมือของตนเองที่มีมือหนาของโอเซฮุนจับอยู่
“....ปล่อย”เป็นเวลาเกือบสองเดือนที่พวกเราไม่ได้ยินเสียงของกันและกัน
คนตัวเล็กพยายามสะบัดข้อมือออกจากการกอบกุมของร่างสูงจนสำเร็จ
“เธอยังเย็นชาไม่เปลี่ยนสินะ”ชายหนุ่มเอ่ยประชดพลางไหวไหล่
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนาย
ฉันไม่อยากเสียเวลา ถอยสิ”ลู่หานจิ๊ปากขัดใจเมื่อสถาปนิกหนุ่มยังไม่เลิกแกล้งเขา
อีกฝ่ายจะเดินดักหน้าดักหลังเขาแบบนี้อีกนานไหม!
เขาไม่ใช่เพื่อนเล่นของอีกฝ่ายนะ!!!
“ฉันเอาการ์ดงานหมั้นมาให้เธอ
หวังว่าเธอจะมาร่วมงานนะ เธอน่ะคือคนสำคัญของเบจูฮยอน...แฟนของฉัน”ภาพที่เขามองเห็นเริ่มสั่นคลอน ลู่หานยื่นมือไปรับการ์ดสีขาวนวลจากมือร่างสูง
เมื่อไหร่จะจบสิ้นกันสักที...ระหว่างฉันกับนาย ฉันไม่อยากรู้สึกอะไรกับนายอีกแล้วโอเซฮุน!
นี่มันไม่ต่างอะไรกับการแทงข้างหลังกันชัดๆทั้งนายและไอรีน
“ผีเน่ากับโลงผุเนี่ยเหมาะสมกันจริงๆเนอะ ในที่สุดนายก็โคจรไปพบสิ่งที่เหมาะสมกับนายแล้ว
ฉันดีใจด้วยนะ”ลู่หานระบายยิ้มยินดีส่งให้ชายหนุ่มทว่าดวงตากลับไม่ได้ยิ้มตาม
คนตัวเล็กเอ่ยประชัดประชันด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน พวกเขาประสานสายตากันสั้นๆและก็เป็นลู่หานที่เป็นฝ่ายเดินหนีออกมาก่อน
โอเซฮุนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะชายหนุ่มอยากเดินเข้าไปกระชากท่อนแขนของลู่หานแล้วจับร่างเล็กกดลงบนเตียงเสียเดี๋ยวนี้
ลู่หานชักจะอวดดีเกินไปแล้ว! เซฮุนหรี่ตามองร่างเล็กที่กำลังเดินจากเขาไปช้าๆด้วยอารมณ์เดือดดาล
ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลเขาไม่มีทางยอมปล่อยลู่หานไปง่ายๆแบบนี้เด็ดขาด
...............................................
ฝากคอมเมนท์และติดแท็ก #พายุฤดูฝนhunhan ด้วยนะคะ