วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เมียเช่า (OS)




#จื่อคุนรหัสแดง

ไม่บ่อยนักที่เขาจะย่างกรายเข้ามาในสถานที่อโคจรแห่งนี้ หากไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตจริงๆเขาก็คงไม่มาที่นี่หรอก จำได้ว่าครั้งล่าสุดคือเมื่อสามเดือนก่อน ครั้งนั้นเขามากับเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ทว่าครั้งนี้เขามาที่นี่เพียงคนเดียว คืนนี้เขาอยากดื่มให้กับชีวิตเฮงซวยของเขา จู่ๆแฟนที่คบกันมาตั้งหลายปีกลับมาบอกเลิกเขาเพื่อไปหาผู้ชายอีกคนที่รวยกว่า แพลนงานแต่งงานที่จะจัดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้าจึงมีอันต้องยกเลิกไปโดยปริยาย
นับตั้งแต่วันที่ผู้หญิงคนนั้นบอกเลิกเขา เขาก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำงานอีกเลย ซึ่งเป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์เข้าไปแล้ว ดวงตาคมจ้องมองไปยังกลุ่มคนหนุ่มสาวมากหน้าหลายตาที่กำลังเต้นเบียดเสียดกันอยู่กลางฟลอร์ ชายหนุ่มยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม ริมฝีปากสีคล้ำจากการสูบบุหรี่จัดยกยิ้มมุมปาก เมื่อสายตาสะดุดเข้ากับหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดีคนนึง ซึ่งนั่งห่างจากเขาไปเพียงไม่กี่โต๊ะ เธอยกแก้วเหล้าขึ้นพลางส่งยิ้มยั่วยวน หวังจื่ออี้ชูแก้วเหล้าในมือก่อนจะส่งยิ้มทักทายเธอ บางทีคืนนี้เขาอาจจะไม่ต้องเหงาเหมือนอย่างค่ำคืนที่ผ่านๆมา
ร่างสูงผุดกายลุกจากเก้าอี้โดยตั้งใจจะสาวเท้าไปหาหญิงสาวที่เขาหมายตาไว้ ทว่าเสียงๆนึงที่เขาคุ้นเคยตะโกนขัดขึ้นซะก่อน หวังจื่ออี้หันใบหน้าไปมองตามเสียงเรียก ก่อนจะต้องกลั้นหายใจไปชั่วขณะเพราะกลิ่นน้ำหอมที่ฉุนจัด ผู้เป็นเจ้าของน้ำหอมเร่งสาวเท้ามาหาเขา
“จื่ออี้!!!!”
 “เจ๊โจวรุ่ย...มีอะไรเหรอ”จำต้องล้มตัวลงนั่งที่เดิม เมื่อเจ้าของผับเหมือนจะมีเรื่องอยากพูดคุยกับเขา ชายที่มีใบหน้าสะสวยคล้ายคลึงหญิงสาวย้อมผมบลอนด์เทาทั้งยังมัดรวบไว้อย่างสวยงามล้มตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามชายหนุ่มรุ่นน้อง โจวรุ่ยระบายยิ้มส่งให้หวังจื่ออี้อย่างเป็นมิตร
“ได้ข่าวว่างานแต่งถูกยกเลิก”ทั้งสองคนรู้จักกันได้เพราะเมื่อก่อนเคยเรียนโรงเรียนมัธยมที่เดียวกัน ที่สำคัญยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่คอยช่วยเหลือกันมาตลอด แต่เมื่อเวลาผ่านไปโจวรุ่ยได้ผันตัวเองเข้ามาในธุรกิจมืดอย่างเต็มตัวเพราะครอบครัวเคยทำซ่องและบ่อนการพนันมาก่อน และที่ต้องหยุดพักกิจการไปเนื่องจากผู้เป็นแม่ล้มป่วยหนัก ปัจจุบันชายหนุ่มได้เข้ามาสานต่อกิจการโดยเปิดผับที่มีฉากหลังเป็นธุรกิจขายบริการย่างเข้าปีที่สี่แล้วล่ะ กลับกันกับรุ่นน้องหนุ่มหวังจื่ออี้ใช้ชีวิตบนหนทางขาวสะอาดและแทบจะไม่เคยมีจุดด่างพร้อยใดๆในชีวิต ชายหนุ่มร่างเล็กเอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบพลางรินเหล้าบนโต๊ะดื่ม
“ใช่เจ๊มันถูกยกเลิกไปแล้ว เพราะผมมันรวยสู้ผู้ชายใหม่ของผู้หญิงคนนั้นไม่ได้”สีหน้าของหวังจื่ออี้กลัดกลุ้มมากขึ้นเมื่อต้องพูดถึงอดีตคนรัก
 “เฮ้อย่าไปเครียดนักสิ...ไม่ตายก็หาใหม่ได้เมียน่ะ นายหล่อออกจะตายไปเดี๋ยวคงได้เจอคนถูกใจใหม่เชื่อเจ๊”โจวรุ่ยมีบุคลิกตุ้งติ้งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อีกทั้งเมื่อยิ่งโตขึ้นจนก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่บุคลิกของอีกฝ่ายนั้นก็ยิ่งแสดงออกชัดเจนว่าคงอยากเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งเขาไม่เคยคิดรังเกียจรุ่นพี่คนนี้เลยแม้แต่น้อย
“ว่าแต่เจ๊ไม่ไปดูแลลูกค้าโต๊ะอื่นเหรอ”ดวงตาเรียวคมกวาดมองไปรอบๆผับที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน
 “ฉันอยากคุยกับแกไม่ได้รึไง หรือว่าแกรังเกียจฉันแล้ว”ร่างสูงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะยกยิ้มและจัดการรินเหล้าใส่แก้วของรุ่นพี่กึ่งชายกึ่งหญิงเพื่อเอาใจอีกฝ่าย
  “ผมไม่เคยรังเกียจเจ๊เลยนะ ไม่มีเจ๊ชีวิตผมคงจะเหงาและน่าเบื่อมากกว่าตอนนี้เยอะ ดื่มอีกแก้วสิ”ชายหนุ่มคะยั้นคะยอด้วยสีที่สดใสมากขึ้น
 “ขอบใจย่ะ พูดถึงเรื่องแฟนใหม่นายสนใจเด็กใหม่ฉันไหม เอาไปเป็นคู่นอนแก้เบื่อสักอาทิตย์สิ ฉันยังไม่อยากขายเด็กมันให้คนอื่น ถึงเด็กมันจะไม่ซิงแล้วแต่รับรองว่านายต้องถูกใจมากเชียวล่ะ ช่ายสวีคุนเพิ่งเริ่มงานที่ผับฉันวันนี้วันแรก หน้าตาน่ารักแถมรูปร่างยังไร้ที่ติ นายไม่สนใจหน่อยเหรอ”
“ผมไม่ได้ชอบผู้ชายนะเจ๊น่าจะรู้ ถ้าเป็นผู้หญิง...ไม่แน่ว่าอาจจะตกลงซื้อ”
 “นู่นไงเสิร์ฟเหล้าอยู่โต๊ะนั้นพอดี เป็นไงล่ะอยากเปลี่ยนใจไหม ถ้าคืนนี้นายไม่ซื้อ...พวกเสี่ยๆคงติดต่อขอซื้อกับฉันแน่ๆ”โจวรุ่ยชี้มือชี้ไม้ไปที่ช่ายสวีคุนซึ่งกำลังเสิร์ฟเครื่องดื่มอยู่บริเวณโต๊ะใกล้ๆ ร่างบางเมื่อเห็นว่ามีสายตาสองคู่กำลังจ้องมองมาแถมหนึ่งในนั้นยังเป็นเจ้านายของเขา สวีคุนระบายยิ้มพร้อมทั้งค้อมศีรษะเล็กน้อยทักทายบุคคลทั้งสองตามมารยาท ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเพราะในเวลาต่อมาเจ้านายได้กวักมือเรียกเขาให้ไปหาที่โต๊ะ ช่ายสวีคุนสาวเท้าไปหาโจวรุ่ยอย่างว่าง่าย คนตัวบางนำถาดทรงสี่เหลี่ยมขึ้นมากอดแนบอกด้วยความรู้สึกประหม่ากลัว
 “สนใจไหมจื่ออี้ ฉันให้โอกาสนายอีกครั้ง”ชายสองเพศแสยะยิ้มพอใจ หลังจากได้เห็นปฏิกิริยาของหวังจื่ออี้ที่เหมือนจะถูกตาต้องใจเด็กคนใหม่ของเขาอยู่ไม่น้อย หึ...สมัยนี้น่ะเขาไม่ยึดติดเรื่องเพศสภาพกันแล้ว เชอะ! 
เขาตั้งใจจะปั้นช่ายสวีคุนให้ขึ้นเป็นตัวท็อปของผับเพราะทั้งผิวพรรณและหน้าตาไม่มีใครในที่นี้จะสวยเท่าช่ายสวีคุนอีกแล้ว เด็กคนนี้หากมองจากภายนอกใครหลายๆคนคงคิดว่าเป็นลูกหลานของเหล่าคุณหญิงคุณนายทั้งนั้นแหละ ขนาดเขาเองครั้งแรกที่ได้เจอช่ายสวีคุนเขายังแอบคิดเลยว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นลูกคุณหนูตกยากอะไรทำนองนั้น ทว่าเมื่อได้ซักไซ้ไล่เลียงประวัติ อีกฝ่ายกลับเป็นเพียงแค่เด็กที่เติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกทั้งยังมีฐานะยากจน
“นายชื่อช่ายสวีคุนเหรอ”
“เอ่อ...ครับ”ร่างบางก้มหน้าหลบสายตาชายหนุ่ม หวังจื่ออี้ไล่สายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของเด็กหนุ่มตรงหน้า เด็กคนนี้ท่าทางจะอายุน้อยกว่าเขาอยู่หลายปีเลยล่ะ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุครบยี่สิบห้าเขาไม่เคยมีความคิดที่อยากจะมีเซ็กส์กับผู้ชายเลยสักครั้งกระทั่งมาเจอเด็กคนนี้
 “หมื่นหยวนขาดตัวสำหรับเวลาหนึ่งอาทิตย์ ถ้าเป็นคนอื่นฉันคิดสองหมื่นเลยนะ สำหรับนายฉันลดให้ ว่าไงจะซื้อไม่ซื้อมองเด็กฉันอยู่ได้ แค่มองน่ะมันไม่ทำให้นายเสร็จหรอกนะหวังจื่ออี้”ชายหนุ่มละสายตาจากใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อของช่ายสวีคุนมาสบตากับรุ่นพี่หน้าหวาน
  “ถึงอย่างนั้นก็ยังแพงสำหรับผมมากอยู่ดีแหละเจ๊”คิ้วเข้มขมวดชิดชนกันหลังจากคำนวณวงเงินในบัตรเครดิต เนื่องจากค่าตัวของช่ายสวีคุนนั้นพอๆกับค่าใช้จ่ายเกือบทั้งเดือนของเขา แต่เด็กคนนี้ก็ถูกใจเขามากเหลือเกิน หวังจื่ออี้ขบคิดอย่างลังเลใจ
“กลับไปทำงานของนายต่อซะ เพราะรุ่นน้องของฉันเขาไม่อยากได้นายขึ้นเตียง”โจวรุ่ยโบกมือไล่ด้วยสีหน้าเซ็งๆ คนตัวเล็กยกเหล้าขึ้นดื่มหวังดับอารมณ์หงุดหงิด ทว่าหลังจากสวีคุนเดินออกไปจากโต๊ะยังไม่ถึงสามก้าวด้วยซ้ำหวังจื่ออี้ก็ตะโกนฉุดรั้งเด็กหนุ่มไว้
 “ช่ายสวีคุน! เดี๋ยวก่อน!!”ร่างบางหมุนตัวกลับมาสบประสานสายตากับคนตัวโต คิ้วที่ถูกกันอย่างสวยงามขยับเลิกขึ้นขณะสบตาชายหนุ่ม สวีคุนรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเพราะเมื่อครู่แขกของเจ้านายเหมือนจะไม่อยากซื้อตัวเขา
 “เปลี่ยนใจเหรอห๊ะ...จะเอาไงกันแน่หวังจื่ออี้”เจ้าของผับกอดอกพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือหงุดหงิด โจวรุ่ยวาดรอยยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพึงพอใจหลุดออกมาจากริมฝีปากของรุ่นน้องหนุ่ม
“ผมตกลง...ผมจะซื้อเด็กคนนี้”
.
.
.
.
.
“ห้องรกฉันหน่อยนะ...นายจะอาบน้ำก่อนไหม ผ้าเช็ดตัวถ้าจะใช้ก็อยู่ในตู้อีกผืน”พูดพลางก้มเก็บเสื้อผ้าที่เกลื่อนอยู่บนพื้นโยนลงตะกร้า สวีคุนกวาดสายตามองข้าวของต่างๆภายในห้องพักที่อยู่สภาพกลางเก่ากลางใหม่
ห้องพักของหวังจื่ออี้นั้นไม่ต่างจากห้องของชายโสดทั่วๆไป เขาเห็นกองถ้วยบะหมี่วางระเกะระกะซ้อนกันเป็นแถวยาวบนโต๊ะตัวเตี้ยด้านหน้าทีวี ไหนจะถ้วยชามที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดถูกแช่น้ำทิ้งไว้เต็มซิงค์ล้างจาน ที่สำคัญฝุ่นภายในห้องยังเยอะอีกต่างหาก ผู้ชายคนนี้คงไม่แตะงานบ้านเลยสินะในรอบหลายเดือน
“ครับ...ขอบคุณ”จื่ออี้มองไปที่คนตัวเล็กซึ่งกำลังสาวเท้าไปหยิบผ้าขนหนูอีกผืนในตู้ข้างเตียง
“แล้วอยากกินอะไรก่อนไหม”เอ่ยถามก่อนที่ช่ายสวีคุนจะปิดประตูห้องน้ำลง
“ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณคุณมาก”จื่ออี้พยักหน้าพร้อมทั้งส่งยิ้มแห้งๆแก้เก้อ ชายหนุ่มใช้มือบีบนวดท้ายทอยหวังจะเรียกสติตัวเองกลับคืนมาให้อยู่กับเนื้อกับตัวมากขึ้น ก่อนจะพาตัวเองมาที่โซนห้องครัวเพื่อหาเบียร์ดื่ม ไม่บ่อยนักที่เขาตัดสินใจซื้อบริการเด็กของโจวรุ่ย แถมครั้งนี้ยังใช้เงินซื้อเป็นจำนวนมากอีกต่างหาก เขาตัดสินใจเช่าช่ายสวีคุนเป็นเมียหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งนั่นก็หมายรวมถึงทุกอย่างทั้งงานแม่บ้านและงานบนเตียง ทีแรกกะจะซื้อเด็กหนุ่มแค่คืนเดียว ทว่าสุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้คำยุยงของโจวลุ่ยจนได้
หวังว่าเวลาหนึ่งอาทิตย์เขาจะได้อะไรกลับคืนมามากกว่าเงินทองที่เขาต้องสูญเสียไป พรุ่งนี้เขาคงต้องกลับไปขับแท็กซี่แล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นเดือนนี้คงได้กินแค่บะหมี่สำเร็จรูปไปทั้งเดือนแน่ๆ ร่างสูงเขวี้ยงกระป๋องเบียร์ที่ดื่มหมดแล้วลงถังขยะ จากนั้นเจ้าของห้องก็หยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบหวังจะดับอาการร้อนรุ่มในกาย ควันพิษถูกระบายออกมาจากร่างกายของชายหนุ่มลอยคละคลุ้งไปทั่วระเบียงห้อง ร่างสูงแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองท้องฟ้าขณะอัดควันพิษเข้าปอดอย่างต่อเนื่อง
.
.
.
.
.
“อย่าลืมใส่ถุงยางนะครับ”เรียวขาสวยค่อยๆอ้าออกกว้าง สวีคุนเอียงแก้มซบหมอนใบใหญ่ร่างบางปิดเปลือกตาลงอย่างเชื่อช้าเพื่อเตรียมตัวรอรับความเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้น ร่างสูงเอื้อมมือไปหยิบถุงยางอนามัยในลิ้นชักใกล้เตียง ชายหนุ่มชักรูดอาวุธประจำตัวให้พร้อมใช้งานอีกครั้งก่อนจะจัดการห่อหุ้มด้วยถุงยาง ชายหนุ่มเสียดสีแกนกายกับช่องทางสีชมพูไปมาเบาๆ ดวงตาคมจดจ้องไปยังเรือนร่างของช่ายสวีคุนด้วยความหลงใหล จากนั้นจึงค่อยๆกดส่วนหัวซึ่งบานเต็มที่เข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย
 “อ้ะ!!!!”มือเรียวจิกกำผืนผ้านวมระบายความเจ็บปวด หยาดน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาสวยที่ยังปิดแน่น ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั้งสรรพางค์กาย ช่ายสวีคุนหลุดเสียงร้องออกมาด้วยความทรมาน ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวตามแรงอารมณ์ที่ถูกชักจูง
“อดทนหน่อยนะใกล้สุดแล้วล่ะ”ยกสะโพกขาวให้ลอยสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่ตัวเขาจะได้สอดใส่อย่างสะดวก ชายหนุ่มนิ่วหน้าเมื่อโพรงเนื้ออุ่นบีบรัดร่างกายของเขาแน่นเกินไป หลังจากพยายามอยู่เกือบนาทีในที่สุดเขาก็สามารถดันแกนกายของตัวเองเข้าไปในร่างกายช่ายสวีคุนได้จนสุดความยาว ร่างสูงคำรามเสียงต่ำในลำคอทั้งรู้สึกเสียวซ่านและอึดอัดในคราวเดียวกัน ชายหนุ่มจัดการนำท่อนขาของร่างบางพาดลงบนแขนของเขา ก่อนจะเริ่มกระแทกกระทั้นเข้าใส่ช่องทางรักในจังหวะนุ่มนวลเพื่อให้สวีคุนได้ปรับตัวเสียก่อน
“อ๊ะ...อื๊อ”เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นเขาก็เห็นหวังจื่ออี้กำลังโน้มใบหน้าลงมาขบเม้มไปทั่วหน้าอกของเขา เม็ดบัวแดงช้ำถูกครอบครองโดยปากสีคล้ำนับครั้งไม่ถ้วน ฟันคมขบงับเบาๆที่ปลายยอดก่อนจะใช้ลิ้นเขี่ยละเลงไปรอบๆฐานสลับไปมาทั้งสองเต้า เม็ดเหงื่อไหลโทรมกายชายหนุ่มต่างวัยซึ่งกำลังผสานร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกัน สวีคุนเผลออ้าปากส่งเสียงคราง เมื่อไม่อาจจะควบคุมความต้องการของตนเองได้อีกต่อไป
“อ้า...อือ!”ถูกจัดท่าให้พลิกตัวไปด้านหลังในท่าหมอบคลาน ท่อนขาเรียวสั่นระริกทั้งยังถูกชโลมไปด้วยหยาดเหงื่อ กลีบปากอิ่มอ้าคางเพื่อหอบเอามวลอากาศเข้าสู่ร่างกายแทนจมูก ผิวกายขาวเนียนเปลี่ยนเป็นแดงก่ำและเต็มไปด้วยร่องรอยขบเม้ม สัมผัสเหนอะหนะที่ช่องทางด้านหลังทำให้เขาต้องเหลียวใบหน้าไปมองด้วยความสงสัย สวีคุนขบเม้มริมฝีปากฉับพลันหลังจากเห็นหวังจื่ออี้กำลังถ่มน้ำลายลงบนช่องทางของเขาซ้ำเป็นหนที่สอง ปรางแก้มแดงปลั่งแนบลงบนหมอนอีกทั้งยังปล่อยให้น้ำลายไหลรินเปรอะเปื้อนเป็นทางยาวราวกับไม่รู้วิธีควบคุมชั่วขณะ       
“อะ...อ๊าาาา!!!!”ช่ายสวีคุนหอบหายใจจนตัวโยน ก่อนจะเชิดหน้ากรีดร้องเสียงหลง เมื่อหวังจื่ออี้สามารถแทรกกายเข้ามาในตัวของเขาได้อีกครั้ง
“ซู๊ด!!! อ้า!!!”จื่ออี้สูดปากด้วยความเสียวซ่าน พลางกระแทกเข้าใส่ช่องทางที่กำลังโอบรัดแกนกายของเขาไม่ยั้ง ชายหนุ่มบีบขย้ำสะโพกกลมกลึงของร่างบางกระทั่งกลายเป็นเนื้อเหลว ร่างสูงโน้มใบหน้าลงขบเม้มที่แผ่นหลังของช่ายสวีคุน อีกทั้งยังเผลอตัวฝากฝังร่องรอยคมเขี้ยวไว้จนเกือบเต็มแผ่นหลังของอีกฝ่าย ขาเตียงสั่นโยกเคล้าคลอจังหวะร่วมรักของคนด้านบน เลือดสีแดงสดไหลเปรอะเปื้อนท่อนขาเรียวเนื่องจากจังหวะร่วมรักรุนแรงเกินกว่าร่างกายบอบบางจะทนรับไหว
ฟันขาวกัดลงบนหมอนระบายความเจ็บปวดที่ผสมปนเปมาพร้อมกับความเสียวกระสัน ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวด้วยความทรมานดวงตาสวยปิดพับแน่น อีกแค่เพียงนิดเดียวทั้งเขาและผู้ที่เป็นรุ่นน้องของเจ้านายก็จะแตะถึงขอบสวรรค์เป็นหนที่สอง ร่างกายของหวังจื่ออี้กระตุกเกร็งสามสี่ครั้งและไม่นานนักธารน้ำขาวขุ่นก็ทยอยถูกขับออกมาจนเต็มถุงยาง
คนตัวโตจัดการถอนแกนกายจากช่องทางด้านหลังของเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ได้ล้มตัวนอนคว่ำไปกับผืนเตียงเสียแล้ว หวังจื่ออี้เอื้อมมือไปดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดคลุมร่างกายเปลือยเปล่าของช่ายสวีคุน จากนั้นจึงสาวเท้าเข้าไปล้างชำระคราบเหงื่อไคลภายในห้องน้ำ
.
.
.
.
.
ชายหนุ่มใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้กับช่ายสวีคุน ก่อนจะหาเสื้อผ้าของเขามาผลัดเปลี่ยนให้แก่อีกฝ่าย จื่ออี้อุ้มเด็กหนุ่มที่สวมใส่เสื้อผ้าของเขาแล้วมาวางที่โซฟา หลังจากที่เขาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่เสร็จแล้ว เขาก็อุ้มช่ายสวีคุนในท่าเจ้าสาวกลับมานอนที่เตียงอีกครั้ง
มือสากเอื้อมไปปิดสวิซส์โคมไฟก่อนจะค่อยๆล้มกายลงนอน หวังจื่ออี้ดึงร่างกายของเมียชั่วคราวเข้ามาโอบกอด อีกทั้งยังจัดการให้สวีคุนหนุนท่อนแขนของเขาแทนหมอน จมูกโด่งแนบลงบนศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีอ่อน ร่างสูงเคลื่อนปลายจมูกมายังหน้าผากมนช้าๆ ดวงตาสีเข้มจดจ้องไปยังใบหน้างดงามของคนในอ้อมกอดด้วยความเสน่หา
หวังจื่ออี้อดไม่ได้ที่จะฝากร่องรอยจุมพิตบนกลีบปากอิ่ม ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าทอดมองใบหน้าเมียเช่าของเขาท่ามกลางความมืดสลัวอยู่เนิ่นนานกระทั่งเผลอผล็อยหลับไปในที่สุด
.
.
.
.
.
 คิ้วที่ถูกกันอย่างสวยงามขมวดชิดชนกันเนื่องจากแสงแดดที่เล็ดลอดจากรอยแยกของผ้าม่านสาดส่องเข้ามารบกวนการนอนหลับของเขา สวีคุนกระพริบตาถี่ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ ร่างบางกวาดตามองรอบๆบริเวณห้องที่ยังไม่คุ้นเคยดีนัก และเมื่อรู้สึกถึงแรงกดทับที่เอวสวีคุนจึงก้มลงมอง ร่างบางขมวดคิ้วเป็นโบว์อีกครั้งเพราะเห็นท่อนแขนของหวังจื่ออี้ยังคงโอบกอดเขาอยู่ คนตัวบางพลิกกายตะแคงหันไปอีกฝั่ง ดวงตาสวยจึงได้สบประสานกับดวงตาเรียวคม
ร่างสูงระบายยิ้มกรุ้มกริ่ม คนตัวโตผละท่อนแขนออกจากเอวคอดบาง ชายหนุ่มใช้มือข้างนั้นเอื้อมขึ้นไปปัดปรอยผมที่ร่วงลงมาปรกใบหน้าของคนที่เขาโอบกอดมาตลอดทั้งคืน ร่างบางก้มหน้างุดอย่างไม่รู้ว่าควรทำสิ่งใด ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใคร...ทำให้เขารู้สึกใจสั่นได้มากขนาดนี้ ดวงตากลมโตสั่นเลิ่กลั่ก หลังถูกชายหนุ่มเชยคางบังคับกรายๆให้แหงนเงยใบหน้าขึ้นมา
“อรุณสวัสดิ์”
 “เอ่อครับ...อรุณสวัสดิ์เช่นกัน”
“นายยังเจ็บอยู่ไหม...ขอโทษนะที่เมื่อคืนฉันรุนแรงกับนายไปหน่อย”ผิวแก้มขาวซีดขึ้นริ้วสีแดงระเรื่อ ร่างบางหลบสายตาชายหนุ่มด้วยความรู้สึกเขินอาย สวีคุนไม่ได้เอ่ยตอบสิ่งใดออกไป
“...”
“ถ้าฉันออกไปทำงานแล้วนายก็อย่าลืมทานยาล่ะ ฉันเป็นห่วง”
“...ครับ”ตอบพลางพยักหน้า
“ถามอะไรหน่อยสิ...แต่ถ้านายรู้สึกว่าฉันละลาบละล้วงนายเกินไป นายไม่ต้องตอบฉันก็ได้”ร่างบางเลิกคิ้วเล็กน้อย ขณะสบประสานสายตากับร่างสูงที่นอนตะแคงอยู่ข้างๆ
 “อะไรเหรอครับ ถ้าผมตอบคำถามของคุณได้ ผมยินดีตอบ”
“นาย...มาทำอาชีพแบบนี้ได้ยังไงเหรอ ฉันขอโทษที่เสียมารยาท หากนายไม่เต็มใจฉันจะไม่บังคับให้นายตอบฉัน”ความจริงเขาอยากจะถามตั้งแต่ตอนอยู่บนรถแล้วล่ะ แต่เพราะเขาเห็นสวีคุนเอาแต่เงียบ แถมยังไม่หันมาสบตาเขาเลยสักครั้ง จนเขาไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามอีกฝ่าย ทว่าตอนนี้เขารู้สึกว่าสวีคุนเริ่มจะคุ้นเคยกับเขามากขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้หวังจะคาดคั้นเอาคำตอบหรอก หากว่าอีกฝ่ายไม่สะดวกใจที่จะตอบเขา
“...”จื่ออี้เห็นสวีคุนก้มหน้าและเงียบไป ชายหนุ่มยื่นมือออกไปประคองที่ปรางแก้มขาว
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร”ประกายตาหม่นหมองของร่างบาง ทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมาเลยล่ะ
“...ผมโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พออายุสิบแปดผมต้องออกจากที่นั่นมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองตามกฎ หลังจากออกมาผมก็พยายามหางานทำ และในที่สุดมีผับที่นึงรับผมเข้าทำงาน ผมทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟและอาศัยหลับนอนที่นั่น ในช่วงที่ผมทำงานได้เกือบสองเดือนผู้จัดการเขาเรียกผมไปคุยเป็นการส่วนตัว เขาบอกว่ามีเสี่ยฐานะร่ำรวยคนนึงอยากรับดูแลผม เพราะความอยากสบายและอยากมีเงินเก็บเยอะๆ...ผมเลยตกลง เสี่ยพาผมไปอยู่ที่คอนโดของเขา เขามักจะแวะมาหลับนอนกับผมประมาณอาทิตย์ละครั้ง จนเวลาผ่านไปเกือบปีในที่สุด...เมียของเสี่ยเขาก็จับได้ ผู้หญิงคนนั้นไล่ผมออกมาจากคอนโดแถมยังตบตีผมสารพัด แต่มันก็สมควรแล้วล่ะเพราะผมมันเลวอย่างที่เธอว่าจริงๆ หลังจากออกมาจากคอนโดในสภาพยับเยิน ผมตัดสินใจโทรหาพี่ที่รู้จักที่เคยทำงานด้วยกัน ผมรู้จักกับเจ๊โจวรุ่ยได้ก็เพราะพี่คนนี้แนะนำ”คลื่นความรู้สึกฉายชัดผ่านดวงตากลมโต สวีคุนระบายยิ้มเศร้าต่อชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง
“ขอบใจนะที่เล่าเรื่องของนายให้ฉันฟัง”จื่ออี้เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ ร่างสูงเคลื่อนฝ่ามือจากปรางแก้มเนียนขึ้นมาลูบศีรษะของช่ายสวีคุนเบาๆ
.
.
.
.
.
ร่างสูงมองสภาพห้องที่สะอาดเอี่ยมด้วยสายตาอึ้งๆ ก่อนจะสะดุดสายตาเข้ากับโต๊ะทานข้าวที่ไม่ได้ใช้งานมานาน ทว่าตอนนี้กลับมีอาหารหน้าตาน่าทานวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ สวีคุนถอดผ้ากันเปื้อนพาดไว้บนพนักเก้าอี้ ร่างบางสาวเท้าเข้ามาหาคนตัวโตด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
 “ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ”
“ทั้งหมดนี่ฝีมือนายเหรอ”
“ครับ...ผมช่วยถอดเสื้อนะ”สวีคุนจัดการปลดกระดุมชุดทำงานของร่างสูง จากนั้นจึงนำเครื่องแบบของคนขับรถแท็กซี่ไปผึ่งลมที่ระเบียง ร่างบางสาวเท้ากลับมาที่โต๊ะอาหารพร้อมทั้งจัดแจงเลื่อนเก้าอี้ให้เจ้าของห้องนั่ง
“มาทานข้าวสิครับ เดี๋ยวจะเย็นเสียหมด”จื่ออี้พยักหน้ายิ้มๆ ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวๆมาที่โต๊ะก่อนจะล้มตัวนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามร่างบาง
  “เสื้อผ้านาย...”เพราะเสื้อผ้าที่สวีคุนสวมใส่อยู่ไม่ใช่เสื้อผ้าของเขา เขาจึงอดที่จะเอ่ยถามอีกฝ่ายไม่ได้
 “ตอนคุณออกไปทำงาน ผมแวะไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านเช่าน่ะ ส่วนเสื้อผ้าที่คุณเปลี่ยนให้ผมเมื่อคืน ผมซักตากไว้ที่ระเบียงแล้วล่ะ ไว้ถ้ามันแห้งแล้วผมจะรีดและพับใส่ไว้ในตู้นะครับ คุณลองทานไข่ตุ๋นหน่อยสิ ใครๆก็บอกว่าผมทำไข่ตุ๋นอร่อยมาก”เลื่อนถ้วยไข่ตุ๋นที่เขาลงมือทำเองไปให้ร่างสูงได้ชิม
 “เป็นไงบ้างคุณ”สวีคุนสบตาชายหนุ่มอย่างรอคอยคำตอบ แก้วตาสวยทอประกายระยิบระยับชวนมอง
 “...อร่อยสมคำร่ำลือจริงด้วย นายสนใจอยากทำอาหารให้ฉันกินแบบนี้ทุกวันไหมล่ะ”คงจะดีไม่น้อยหากว่าช่ายสวีคุนทำอาหารให้เขาทานแบบนี้ทุกวัน แต่มันคงเป็นไปได้ยาก เพราะสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเด็กหนุ่มคนนี้ไว้คือเงิน ถ้าเขาไม่มีเงินจ่ายให้...อีกฝ่ายคงไม่ทำอะไรเช่นนี้ให้เขาหรอก ทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่หน้าที่...หน้าที่ของคนเป็นเมียเช่าเท่านั้น
 “หมายความว่าไงครับ?”ดวงตากลมโตลุกวาวอีกทั้งยังเต็มไปด้วยประกายสดใส สวีคุนเลิกคิ้วขณะจ้องมองใบหน้าหล่อจัดของหวังจื่ออี้ หัวใจดวงน้อยกำลังลิงโลดและพองโตด้วยความตื่นเต้น เจ๊โจวรุ่ยอุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามหวั่นไหวกับลูกค้าเด็ดขาด...แต่เขาก็ยังจะทำผิดข้อห้ามนั่น ก้อนเนื้อในอกซ้ายห่อแฟบลงทันทีหลังจากได้ยินคำตอบ จริงสินะ...คงไม่มีใครอยากจริงจังกับคนขายตัวหรอก
“ช่างเถอะ ฉันพูดเล่นน่ะ”ชายหนุ่มพูดปัด ก่อนจะตักอาหารใส่ลงในถ้วยของคนตรงหน้า โดยไม่ทันได้สังเกตแววตาที่หม่นลงของช่ายสวีคุนแม้แต่น้อย
.
.
.
.
.
 “ต่ออีกรอบนะ”กระซิบเสียงพร่าข้างใบหูแดงจัด สวีคุนหันไปมองคนตัวสูงที่กำลังสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง ฟันคมกัดฉับลงบนกลีบปากอวบอิ่ม คนตัวโตแกล้งปัดป่ายไปโดนยอดอกของร่างบาง หวังจื่ออี้ใจใช้ปลายนิ้วชี้เขี่ยเบาๆที่เม็ดบัวจนมันเริ่มแข็งตั้งชันอีกครั้ง
“อะ...อือ”ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนตั้งมากมายนัก เขาเพิ่งจะนอนพักไปได้แค่ชั่วโมงเดียวเอง
“นะ...นะครับ...เด็กดี”ชายหนุ่มเคลื่อนมือลงต่ำมาวางที่แท่งเนื้อขนาดพอเหมาะของในอ้อมกอด ร่างสูงเพิ่มด้วยเร็วในการชักรูดกระทั่งอาวุธของสวีคุนกลับมาแข็งสู้มือเขา หวังจื่ออี้ยกยิ้มร้ายกาจพลางบดเบียดแท่งเนื้อใหญ่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงยางชำแรกเข้าไปในช่องทางสีชมพูบวมเจ่อ ร่างกายของช่ายสวีคุนยังคงใช้งานได้ดี แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นเซ็กส์รอบที่สามของค่ำคืนนี้
“อ๊า!...อ้ะ!...คุณอย่ารุนแรงนักสิ”สวีคุนหอบหายใจถี่รัว ความเสียวกระสันวิ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย ดวงตากลมใสเจือหยาดน้ำเหม่อมองไปยังทิศทางเบื้องหน้าเลื่อนลอย ช่ายสวีคุนรู้สึกคล้ายกับว่ามีผีเสื้อนับพันๆตัวกำลังโบยบินอยู่ภายในช่องท้องของเขา ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้างด้วยความสุขสม
“อ๊ะ!!!...ทำไม”จู่ๆก็ถอดส่วนนั้นออกไปจากร่างกายของเขาทั้งๆที่ยังไม่เสร็จกันทั้งสองฝ่าย คนสวยเบะปากคว่ำ สวีคุนมองส่วนนั้นของชายหนุ่มด้วยสายตาเว้าวอน ช่องทางรักตอดขมิบถี่รัวตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของ
“แค่อยากเปลี่ยนท่าน่ะ นอนตะแคงฉันไม่ค่อยถนัด”สวีคุนหลับตาแน่นปี๋ขณะร่างสูงจับแยกเรียวขาออกกว้าง และไม่นานนักส่วนล่างของเขาก็ถูกหวังจื่ออี้เติมเต็มอีกครั้ง
 “อ๊ะ...อ๊าาาา”เชิดใบหน้าขึ้นอ้าปากครวญคราง ท่อนแขนเรียวตวัดโอบรอบลำคอแกร่งขณะที่ส่วนล่างกำลังถาโถมเข้าหากันในจังหวะถี่กระชั้น ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงบดขยี้กลีบปากบวมแดงด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะจัดการละเลงปลายลิ้นไปทั่วหน้าอกบางอีกทั้งไม่ลืมที่จะฝากฝังร่องรอยกลีบกุหลาบทั่วผิวเนื้อเนียน สวีคุนเอื้อมมือขึ้นไปจิกทึ้งกลุ่มผมของหวังจื่ออี้อย่างหลงลืมตัว
“อะ...โอ๊ะ..อ๊าาา”ร่างบางหวีดร้องน้ำเสียงสั่นพร่า เมื่ออาวุธร้ายกาจของชายหนุ่มด้านบนกระแทกเข้าใส่จุดกระสันของเขาไม่ยั้ง ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นสมองของช่ายสวีคุนก็ขาวโพลนไปหมด เปลือกตาบางแสนอ่อนล้าปิดพับลงทันที
.
.
.
.
.
 “ได้ข่าวว่ามึงซื้อเด็กมากกเหรอวะ”หวังจื่ออี้แกล้งทำท่าทางเฉไฉพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“มึงระวังติดโรคล่ะ กูเตือนด้วยความหวังดี คนพวกนี้แม่งไม่รู้ว่าผ่านมากี่คว...”จงใจวางกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ ดวงตาสีเข้มดุดันขึ้นขณะจดจ้องไปยังใบหน้าของเพื่อนร่วมอาชีพ จริงๆคืนนี้เขาอยากใช้เวลาร่วมกับช่ายสวีคุนให้คุ้มค่า เนื่องจากพรุ่งนี้สัญญาเมียเช่าของอีกฝ่ายก็จะสิ้นสุดลงแล้ว
เขาตั้งใจจะใช้เวลาอยู่ที่คาเฟ่แห่งนี้ไม่เกินสองชั่วโมงหรอก อีกอย่างตอนนี้เขาอยากกลับไปนอนกอดร่างกายหอมๆของช่ายสวีคุนเต็มแก่แล้วล่ะ และที่เขาต้องเดินทางมาที่คาเฟ่แห่งนี้ในเวลากลางดึก เพราะเขาถูกเพื่อนสนิทโทรมารบเร้าไม่เลิก แถมมันยังหยิบยกเรื่องที่เขาเคยสัญญาว่าจะเลี้ยงเหล้าขึ้นมาข่มขู่อีกต่างหาก
“เลิกพูดจาดูถูกเขาสักทีเหอะ! ว่าแต่มึงรู้เรื่องของกูได้ยังไง”
“พนักงานในผับเจ๊โจวรุ่ยบอกกู มึงไปซื้อทำไมวะพวกกระหรี่ หาแฟนเป็นตัวเป็นตนใหม่ไม่ดีกว่าเหรอวะ”พูดจบเยี่ยนจวิ้นก็หันไปขยิบตาเจ้าชู้ส่งให้สาวสวยโต๊ะข้างๆ ก่อนจะหันกลับมาประสานสายตากับเพื่อนสนิท
 “มึงไม่ต้องมายุ่งเรื่องของกูหรอกน่า”
“กูเป็นเพื่อนมึงนะ กูถึงได้เตือนด้วยความหวังดี แล้วมึงอย่าไปคิดจริงจังกับคนพวกนี้ล่ะ ถ้าโดนปอกลอกจนหมดตัวกูไม่ช่วยมึงจริงๆด้วย”ชายหนุ่มเริ่มฉุกคิดตาม ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังแอบหวังลึกๆว่าช่ายสวีคุนจะไม่เป็นอย่างที่เยี่ยนจวิ้นพูด
  “ทำไมมึงมองโลกในแง่ร้ายนักวะ...”
“อะ...แค่กๆ อย่าบอกนะว่ามึง”ร่างโปร่งสำลักเหล้าที่กำลังดื่มแทบจะทันที เยี่ยนจวิ้นมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยสายตาหวาดๆ
“เออ! กูชอบเด็กคนนั้น กูอยากให้เขาเป็นเมียของกูถาวร...ไม่อยากให้เขาขายตัวให้ใครอีก”ตลอดระยะเวลาหกวันที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แม้จะเป็นเวลาที่ไม่ได้เนิ่นนานเท่าไหร่นัก แต่เขามั่นใจในความรู้สึกของตัวเองพอสมควร ใช่..เขาชอบช่ายสวีคุน ที่สำคัญเขาคงทำใจไม่ได้หากว่าช่ายสวีคุนต้องขายตัวให้ผู้ชายคนอื่นหลังจากหมดสัญญากับเขา เขาคิดทบทวนมาระยะนึงแล้วล่ะว่าจะใช้เงินเก็บที่มีอยู่ซื้อตัวเด็กคนนั้นเป็นเมียเช่าอีกครั้ง
“แล้วเด็กคนนั้นชอบมึงรึเปล่าวะ...มึงเคยถามเขารึยัง บางทีเด็กที่มึงชอบมันอาจจะอยากไปอยู่กับพวกเสี่ยรวยๆก็ได้”แก้วตาสีนิลสั่นคลอนวูบไหว ชายหนุ่มลืมนึกถึงเหตุผลข้อนี้ไปเสียสนิท
.
.
.
.
.
“ครับ...ครับพรุ่งนี้ผมจะไปรอที่ร้านอาหาร”
“คุยกับใคร!”สวีคุนสะดุ้งโหยง ก่อนจะหันรีหันขวางมองหาต้นตอของเสียงตวาดเมื่อครู่ ร่างสูงสาวเท้าเร็วๆไปหาเด็กหนุ่มซึ่งกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ที่บริเวณระเบียงห้อง
 “แค่นี้ก่อนนะครับเจ๊”ร่างบางรีบกดวางสายเจ้านาย  
  “พอดีว่าเจ๊โจวรุ่ยเขาอยากให้ผมไปทานข้าวกับลูกค้าพรุ่งนี้”วาดรอยยิ้มหวานส่งให้ชายหนุ่มเจ้าของห้อง กลิ่นเหล้าที่ฟุ้งมาจากร่างกายของชายหนุ่ม ทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงจะดื่มมาเยอะพอสมควร
“หึ...คงไม่ใช่การกินข้าวธรรมดาหรอกใช่ไหม...ขายตัวด้วยล่ะสิ”เปลือกตาบางเบิกกว้างขึ้นพร้อมๆกับรอยยิ้มบนใบหน้างดงามค่อยๆจางหายไป สวีคุนก้มหน้าลงเมื่อไม่อาจจะทนเห็นสายตาดูถูกของหวังจื่ออี้ได้ต่อไป
 “ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับแต่เช้า”เด็กหนุ่มเดินผ่านร่างสูงมาล้มตัวนอนที่เตียง เขาได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงน้ำไหล ร่างบางพยายามข่มตาหลับแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ถึงดวงตาจะปิดลงทว่าความรู้สึกทุกอย่างกลับยังกระจ่างชัดเจนอยู่ดี แรงยวบที่เตียงอีกฝั่งทำให้เขารู้ว่าหวังจื่ออี้กำลังล้มตัวลงนอนข้างๆเขา สวีคุนเบิกตาโผลงด้วยความตระหนกท่ามกลางความมืดสลัว ร่างบางก้มหน้าลงมองอาภรณ์ชิ้นล่างที่กำลังถูกฝ่ามือหนาถอดกระชากออกไป
.
.
.
.
.
“ฮรึก....”ไม่รู้เลยว่าสลบไปเนิ่นนานแค่ไหน แต่เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งเขาก็พบว่าร่างสูงยังไม่ยอมหยุดรังแกร่างกายของเขา สวีคุนจ้องหน้าคนใจร้ายผ่านม่านน้ำตา สัมผัสหยาบโลนยังคงกระแทกกระทั้นเข้ามาในร่างกายเขาอย่างไม่หยุดพัก ร่างบางภาวนาให้ตัวเขาสลบไปอีกครั้งเพื่อหลีกหนีจากความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญ เซ็กส์ของหวังจื่ออี้มันช่างป่าเถื่อนและรุนแรงกว่าทุกๆครั้ง ชายหนุ่มไม่ฟังคำขอร้องใดๆจากเขาเลย แม้ว่าเขาจะร้องไห้ปานจะขาดใจอีกฝ่ายก็ไม่สนใจใยดีแม้แต่น้อย
“...อือ”ตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกปวดร้าวไปทั้งร่างกาย สัมผัสเหนอะหนะจากส่วนล่างเสมือนเป็นเครื่องเตือนความจำว่าเมื่อคืนหวังจื่ออี้รุนแรงกับเขามากแค่ไหน สวีคุนก้มลงมองหว่างขาของตัวเองที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโสมม เขาเตือนหวังจื่ออี้หลายครั้งว่าให้สวมถุงยางอนามัยเสียก่อน แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับฟังถ้อยคำของเขา
ช่ายสวีคุนพรั่งพรูลมหายใจยาวเหยียดต่อสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ของตัวเอง คนตัวบางหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ข้างๆด้วยสายตาเศร้าๆ เขาอยากจ้องมองใบหน้าของหวังจื่ออี้ให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ภาพความทรงจำดีๆระหว่างกันไหลย้อนวนเวียนในความคิดจนทำให้เขาเผลอร้องไห้ออกมา หลังจากจ้องมองหวังจื่ออี้จนพอใจแล้วเขาจึงตัดสินใจก้าวเท้าลงจากเตียง สวีคุนทำความสะอาดร่างกายที่สกปรกด้วยทิชชู่ ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวม ร่างบางนิ่วหน้าเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อต้องก้าวเดิน สงสัยว่าเขาคงต้องยกเลิกงานของเจ๊โจวรุ่ยในวันนี้แล้วล่ะ สภาพร่างกายของเขาเป็นแบบนี้แขกที่ไหนจะพอใจล่ะ
“ลาก่อนนะครับ...คุณจื่ออี้”เอ่ยลาครั้งสุดท้าย ก่อนจะพาร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยบอบช้ำออกมาจากห้องพัก
.
.
.
.
.
 “ผมอยากได้ที่อยู่ของช่ายสวีคุน”ชายหนุ่มบอกความประสงค์ต่อเจ้าของผับ หลังจากที่เขาตื่นนอนเขาก็ไม่เห็นช่ายสวีคุนอีกเลย หวังจื่ออี้รีบขับรถมาที่ผับเพราะเชื่อว่าโจวรุ่ยต้องรู้ว่าช่ายสวีคุนนั้นอยู่ที่ไหน
“จะอยากรู้ไปทำไม”ร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดนอนไม่ตอบคำถามหากแต่ยังตั้งคำถามกลับไป ชักจะยังไงๆแล้วล่ะเพราะเมื่อกี้สวีคุนเพิ่งจะโทรมายกเลิกงานที่เคยตกลงกันไว้เมื่อวาน สวีคุนบอกเขาแค่ว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายเลยไม่สะดวกที่จะรับงานนี้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีกฝ่ายนัก สังเกตจากน้ำเสียงแล้วสวีคุนคงจะไม่สบายจริงๆนั่นแหละ พอเขาวางสายจากช่ายสวีคุนได้ไม่เท่าไหร่หวังจื่ออี้ก็เดินพรวดพราดเข้ามาในห้องทำงานของเขา
“...ผมอยากขอโทษเขา”
“ทำไมทำเลาะอะไรกันเหรอ”ชายสองเพศเอ่ยถามต่อ คนตัวเล็กมองหน้าร่างสูงด้วยสายตาหยั่งเชิง
“เมื่อคืนผมเมา...เลยรุนแรงกับเขา แถมพูดจากไม่ดีกับเขาอีก ผมอยากขอโทษเขา”
“ถามตรงๆนะ แกคงไม่ได้ตกหลุมรักเด็กของฉันหรอกใช่ไหม ถ้าแบบนั้นเนี่ยเรื่องใหญ่เลยนะ”ยิ่งเห็นแววตาของหวังจื่ออี้เขาก็ยิ่งมั่นใจในข้อสันนิฐานของตัวเอง คนตัวเล็กเบิกตาโพลงเมื่อรุ่นน้องคนสนิทคุกเข่าลงตรงหน้าเขา
“เจ๊โจวรุ่ย...ผม...ผมอยากขอช่ายสวีคุนจากเจ๊ ผมรักเด็กคนนี้”
“ห๊ะ!!!! ลุกขึ้นก่อน ทำอย่างกับว่าแกเป็นพระเอกหนังน้ำเน่าไปได้ลุกขึ้นเลยนะ”โจวรุ่ยใช้ทั้งสองมือจับเข้าที่บ่ากว้างบังคับให้หวังจื่ออี้ลุกขึ้นยืน
“บอกมาก่อนสิว่าเจ๊จะยกเขาให้ผม”หวังจื่ออี้ยังคงดื้อแพ่ง ชายหนุ่มมองหน้ารุ่นพี่คนสนิทด้วยสายตากึ่งอ้อนวอน
“เรื่องพวกนี้ฉันตัดสินใจเองไม่ได้หรอกนะ...คนที่จะสามารถบอกแกได้คงมีแค่ช่ายสวีคุนคนเดียว”
“....”
“ถ้าเด็กมันรักแก เหมือนกับที่แกรักมัน ฉันจะไม่รั้งมันไว้ให้มันทำงานกับฉันต่อ”เตือนเด็กในสังกัดหลายครั้งแล้วล่ะ ทว่าไอ้เหตุการณ์เผลอใจตกหลุมรักลูกค้าเนี่ยมันก็ยังมีมาตลอด หากช่ายสวีคุนรู้สึกเช่นเดียวกับหวังจื่ออี้เขาคงทำได้เพียงยินดีกับความรักของคนทั้งคู่ แม้จะรู้สึกเสียดายเด็กปั้นคนใหม่อยู่มากก็ตาม
“ผมขอที่อยู่เขาได้ไหม ขอร้องล่ะ”โจวรุ่ยกรอกตามองบน เขาต้องสูญเสียช่ายสวีคุนไปจริงๆนะเหรอ นานๆทีกว่าจะหาเด็กที่ครบเครื่องได้ขนาดนี้ แต่มันก็ไม่แน่หากว่าช่ายสวีคุนไม่ได้ชอบหรือรักหวังจื่ออี้ และมีแค่รุ่นน้องของเขาเท่านั้นที่รู้สึกอยู่เพียงฝ่ายเดียว เรื่องนี้คงต้องวัดดวงกันหน่อยล่ะ
“เฮ้อ...จริงๆเลยนะเด็กพวกนี้”
.
.
.
.
.
หลังจากเขาได้ที่อยู่มาจากโจวรุ่ยเขาก็รีบบึ่งรถมาหาช่ายสวีคุนตามที่อยู่ทันที ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูบ้านหลังเก่าหลังหนึ่ง ชุมชนที่ช่ายสวีคุนพักอาศัยแทบจะไม่มีความปลอดภัยเลยสักนิด ที่นี่ไม่ต่างจากสลัมเลยล่ะไม่ต้องเดาเขาก็พอจะรู้ว่าอาชญากรรมมีเยอะมากแค่ไหน สาบานเลยว่าต่อให้สวีคุนจะไม่รับรักเขา แต่เขาก็จะคอยช่วยเหลืออีกฝ่ายตลอดไป ชายหนุ่มรอคอยไม่นานนักประตูไม้ก็ค่อยๆแง้มออก
“คุณ!”ช่ายสวีคุนมองชายหนุ่มเบื้องหน้าด้วยสายตาตกตะลึง
“ฉันมาขอโทษนาย...เรื่องเมื่อคืน”กลีบปากอิ่มมีรอยแผลจางๆ อีกทั้งลำคอขาวยังเต็มไปด้วยรอยขบเม้ม ไหนจะดวงตากลมโตที่ตอนนี้ทั้งบวมและแดงก่ำ ร่องรอยแปดเปื้อนบนเนื้อตัวของช่ายสวีคุนเกิดขึ้นเพราะน้ำมือเขา หวังจื่ออี้สบตาร่างบางด้วยความรู้สึกผิด ดวงตาเรียวคมอ่อนแสงลงมากกว่าทุกครั้ง
“ผมไม่เคยโกรธคุณ...อีกอย่างคุณมีสิทธิ์ที่จะทำมัน ในเมื่อตอนนั้นผมอยู่ในฐานะเมียเช่าของคุณ คุณกลับไปเถอะครับ...ผมไม่เป็นอะไรหรอก”เบือนหน้าหนีสายตาลึกซึ้งที่กำลังจ้องมองมาที่ตัวเขา ทว่าสวีคุนก็ต้องหันไปมองชายหนุ่มอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายถือวิสาสะดึงมือของเขาไปกอบกุม ร่างบางขมวดคิ้วดวงตากลมโตเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
“มันอาจจะเร็วเกินไปเพราะพวกเราเพิ่งรู้จักกัน...แต่ฉันมั่นใจในความรู้สึกของฉัน ฉันรักนาย...ช่ายสวีคุน”สวีคุนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีนิล หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามดังกึกก้องไปทั่วทั้งอกซ้าย
“คุณไม่รังเกียจผมเหรอ”หวังจื่ออี้ดึงร่างของสวีคุนเข้ามาสู่อ้อมกอด ชายหนุ่มพยายามถ่ายทอดความรู้สึกของเขาผ่านอ้อมกอดนี้ คนตัวบางแนบแก้มลงบนหน้าอกแกร่ง คล้ายกับว่าทุกอย่างคือความฝันเมื่อในตอนนี้เขาได้อยู่ภายในอ้อมกอดของผู้ชายคนนี้อีกครั้ง เสียงหัวใจของหวังจื่ออี้ทำให้เขาเผลอระบายยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว
“ใครจะไปรังเกียจคนที่ตัวเองรักล่ะ แล้วนายล่ะรู้สึกยังไงกับฉัน”ร่างบางผละแก้มออกจากหน้าอกกำยำ สวีคุนแหงนเงยใบหน้าขึ้นสบตาคนตัวโตขณะที่ท่อนแขนแข็งแรงยังคงโอบเอวคอดบางไว้อย่างแนบแน่น ร่างบางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะเอ่ยตอบชายหนุ่ม หวังจื่ออี้จ้องมองใบหน้าของช่ายสวีคุนอย่างไม่วางตา
“ผมรักคุณครับ”
.
.
.
.
.
“คุนคุนจ๊ะแฟนมารับแล้วนู่น พี่จัดการส่วนที่เหลือต่อเอง”โหย่วจางจิ้งบอกพนักงานของร้าน คนตัวขาวจัดบุ้ยปากไปที่ด้านหน้าร้าน หลังจากเห็นรถแท็กซี่ป้ายทะเบียนคุ้นตาขับมาชะลอจอด สวีคุนเหลียวใบหน้าไปมอง ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้ผู้เป็นเจ้านาย
“ถ้างั้นผมกลับก่อนนะครับพี่จ่างจิ้ง เจอกันพรุ่นนี้นะครับ"เป็นอันต้องละมือจากงานตัดแต่งกิ่งดอกไม้ลงเพียงเท่านี้ งานที่เหลืออีกเล็กน้อยคงต้องฝากฝังให้เป็นหน้าที่ของเจ้าของร้านอย่างช่วยไม่ได้
“จ้า รีบๆไปขึ้นรถเถอะ จื่ออี้จอดรถตรงนั้นนานๆไม่ได้นะ”สวีคุนพยักหน้ายิ้มๆ ร่างบางหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่พลางสาวเท้าออกมาจากร้านดอกไม้ซึ่งเป็นที่ทำงานของเขา หลังจากวันนั้นที่เขาและหวังจื่ออี้ได้เปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อกัน เขาก็ไม่ได้กลับไปทำงานที่ผับของเจ๊โจวรุ่ยอีกเลย ทั้งยังตัดสินใจย้ายข้าวของไปพักอาศัยที่ห้องของชายหนุ่มอย่างถาวร ตอนนี้เขาและหวังจื่ออี้ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะคนรักมาได้ปีกว่าแล้วล่ะ
.
.
.
.
.
 “ไม่ใช่ทางกลับบ้านของเรานิครับ หรือว่าเย็นนี้คุณอยากทานข้าวนอกบ้าน เบื่อฝีมือผมแล้วล่ะสิ”กวาดสายตามองร้านรวงข้างทางที่แปลกตาไปจากเดิมผ่านกระจกรถ ร่างบางขมวดคิ้วชิดชนกันด้วยความสงสัยขณะมองซีกหน้าของชายหนุ่มซึ่งกำลังทำหน้าที่ขับรถ
 “ใครว่าล่ะ...แค่อยากพานายไปที่ที่นึง”หวังจื่ออี้ตอบด้วยท่าทางอารมณ์ดี
  “ที่ไหนเหรอครับ?”
 “ขืนบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ”สวีคุนเม้มปากฉับเป็นเส้นตรง ดวงตาสวยละสายตาจากใบหน้าของคนรัก ก่อนจะหันไปมองทิวทัศน์แปลกตาด้านนอกกระจกอีกครั้ง
“ถึงแล้วล่ะที่นี่แหละ”ใช้เวลาขับรถราวๆหนึ่งชั่วโมงในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงที่หมาย สวีคุนวางสายตาที่ตึกแถวสามชั้นขนาดใหญ่ด้านนอกกระจก
“บ้านของใครเหรอครับ”
“บ้านป๊าม๊าฉันเองแหละ พวกท่านอยากให้ฉันพานายมากินข้าวด้วยกันน่ะ”แก้วตากลมโตเป็นประกายลุกวาว หลังจากได้ยินเช่นนั้นสวีคุนรู้สึกไม่ต่างจากถูกสาปให้ตัวแข็งทื่อทุกสัดส่วนชาดิกไปชั่วขณะ ร่างสูงวาดรอยยิ้มส่งให้คนรัก ชายหนุ่มคว้ามือเรียวบนหน้าตักของสวีคุนมากอบกุมไว้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่อีกฝ่าย
“พวกท่าน...รู้รึเปล่าว่าผมเป็นผู้ชาย”ช่ายสวีคุนอดที่จะกังวลในเรื่องนี้ไม่ได้
 “ฉันเคยบอกพวกท่านแล้วล่ะ...ไม่ต้องกลัวหรอก พวกท่านใจดีมาก เชื่อใจฉันนะทุกอย่างต้องราบรื่น”ชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นโยกศีรษะของร่างบางเบาๆเพราะอยากให้สวีคุนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ร่างสูงแนบปลายจมูกที่หน้าผากมนด้วยสัมผัสอ่อนโยน ก่อนจะจัดการปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยให้ร่างบางด้วยตัวเอง
 “...ลงจากรถกันเถอะ”
“...ครับ”ริมฝีปากอิ่มระบายยิ้มกว้างด้วยความสุข
.
.
.
.
.
.
.
.
.
end
...................
มาต่อให้จนครบแล้วค่ะ ส่วนคอมยังไม่ได้ซ่อม 😂😂😂
...................
อยากร้องไห้คอมพัง ไว้ถ้าซ่อมเสร็จจะปั่นส่วนที่เหลือให้อ่านนะคะ #เปื้อนจื่อคุน เปิดจองและโอนจนถึง20เดือนนี้นะคะ 😻🙏 เม้นต์และติดแท็กให้กันบ้างนะ 😊 os เจอกันใน #จื่อคุนรหัสแดง ฮับ มาอัพเนื่องในวันเกิดน้องคุนตามสัญญา 😊😊



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น