วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561

#คลั่งรักจื่ออี้ 4


#คลั่งรักจื่ออี้

ร่างเล็กกระพริบตาถี่ ก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ ความรู้สึกแรกหลังจากสลบไปนานเกือบสี่ชั่วโมงคือความเจ็บปวดที่ช่องทางด้านหลัง สวีคุนนิ่วหน้าทันทีเมื่อรู้สึกตัวตื่น ไม่ใช่แค่ช่องทางด้านหลังที่เขารู้สึกปวดร้าว แต่มันแทบจะทั่วทั้งร่างกายของเขา ที่สำคัญตัวเขายังคงร่างกายเปล่าเปลือย ริมฝีปากอิ่มบวมแดงขบเม้มเข้าหากัน หลังพยายามขยับเขยื้อนร่างกาย ก่อนจะต้องเบิกตาโพลงเมื่อดวงตาของเขาปะทะเข้ากับใครบางคน อกแกร่งกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจนั่น แก้วตาสวยสั่นไหวไม่นานนักความรู้สึกโกรธเกลียดก็ถูกกลั่นกรองเป็นหยาดน้ำใสๆ
หวังจื่ออี้กำลังนอนหลับอย่างสบายใจอยู่ข้างๆเขา และสวีคุนยังพบว่าศีรษะของเขาหนุนอยู่บนท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ไหนจะเอวคอดที่มีมือหนาวางทาบทับอยู่ คนสวยพยายามพยุงกายลุกขึ้นนั่ง ทุกการขยับตัวเต็มไปด้วยความทรมาน คนตัวเล็กกัดฟันแข็งใจจนกระทั่งเขาสามารถนั่งได้สำเร็จ ก่อนจะรีบหยิบเสื้อผ้าใกล้ตัวขึ้นมาสวมใส่ ดวงตาสวยเอ่อคลอน้ำตาจดจ้องไปที่ใบหน้าของหวังจื่ออี้ 
ศักดิ์ศรีของเขาถูกผู้ชายคนนี้เหยียบย่ำ จนไม่เหลือคุณค่าใดๆอีกแล้ว
สวีคุนพยายามมองหาอาวุธ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเจอเข้ากับอิฐเก่าขนาดเหมาะมือก้อนนึง วางตั้งอยู่บริเวณโคนเสา ไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อยที่จะเดินไปหยิบมันมา ร่างเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ รู้สึกได้เลยว่าเลือดกำลังไหลออกมาจากช่องทางด้านหลัง เมื่อคืนที่ผ่านมาช่องทางของเขาถูกหวังจื่ออี้ย่ำยีนับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เขาก็ยิ่งรังเกียจร่างกายตัวเอง และคงจะไม่ต้องรู้สึกแย่ไปกว่านี้ หากว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้เต็มใจตกเป็นของมัน... เซ็กส์ช่วงหลังๆเขาเผลอใจเต้นแรงไปกับสัมผัสหยาบโลนนั่น แถมยังดึงรั้งต้นคอของบุคคลที่ครั้งนึงเขาเคยชี้หน้าด่าว่าเป็นแค่เศษสวะเพื่อเรียกร้องจุมพิตจากมัน
เซ็กส์ครั้งแรกของเขามันไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักของคนสองคนอย่างที่เขาเคยวาดฝันไว้ ร่างเล็กเดินกระเผลกไปหยิบวัตถุซึ่งเขาสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวได้ ก่อนจะพยายามแข็งใจเดินกลับมาหาร่างสูงอีกครั้ง เขาควรจะใช้อิฐในมือทุบเข้าที่ศีรษะของหวังจื่ออี้ซะในระหว่างที่มันยังไม่รู้สึกตัว ใช่...เขาควรทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่นคือการแก้แค้นมันคืน ให้มันตายคามือของเขาซะ ชดใช้สิ่งที่เขาต้องสูญเสีย มือเรียวกำอาวุธในมือจนเห็นเป็นเส้นเลือดปูดโปนบนหลังมือขาว
สวีคุนมองเห็นหวังจื่ออี้ผ่านม่านน้ำตา คนตัวเล็กทรุดกายลงนั่งข้างๆร่างที่นอนหลับ ก้อนอิฐในมือถูกยกขึ้นสูง หลับตาลงกลั้นหายใจเฮือกใหญ่ ตั้งใจจะกระแทกก้อนอิฐในมือเข้าที่ศีรษะของคนที่ย่ำยีเขาด้วยความอย่างป่าเถื่อน
พลั่ก!!!!!!
.
.
.
.
.
“ฮรึก..ฮื่อ”
ทำไมเขาถึงทำไม่ได้!!!!! ทำไม!!!!!!
“อย่าร้องไห้สิครับ คุณหนู”ความจริงแล้วเขารู้สึกตัวตื่นตั้งแต่ตอนที่ช่ายสวีคุนขยับตัวยุกยิกในอ้อมกอดแล้วล่ะ แต่ก็แกล้งหลับตาแกล้งหลับต่อไป แค่อยากรู้ว่าคนสวยจะทำอะไรกับเขาบ้าง ถ้าอาวุธในมือของอีกฝ่ายเฉียดเข้ามาใกล้ใบหน้าของเขาเมื่อไหร่ แน่นอนเขาจะรีบเบี่ยงตัวหลบทันที ยังไงซะช่ายสวีคุนก็ไม่มีทางที่จะทำร้ายเขาได้อีกแล้ว ตอนนี้เกมเป็นของเขา และเขาจะเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่าง รวมถึงตัวของสวีคุนด้วยเช่นกัน
จื่ออี้รีบดึงคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวโยนเข้ามากอดปลอบ ดวงตาคมกริบตวัดไปมองก้อนอิฐที่แตกกระจายเป็นก้อนเล็กๆ หึ...มันเฉียดศีรษะเขาไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะช่ายสวีคุนทำใจฆ่าเขาไม่ลง...
“ปล่อย!!! ฉันเกลียดแก ปล่อยฉัน!ฮึกๆ”คนสวยออกแรงดิ้นขลุกขลัก สวีคุนพยายามดันหน้าอกแกร่งให้ถอยออกไป
 “ยิ่งดิ้นแรง ผมยิ่งกอดคุณแน่นขึ้นนะ!”ได้ผลมือเรียวหยุดชะงักลงทันที สวีคุนปล่อยท่อนแขนตกลงสู่ข้างลำตัว ใบหน้าสวยแนบซบลงที่บ่ากว้าง ปล่อยน้ำตาของความอ่อนแอให้ไหลออกมาอย่างเงียบๆ โดยมีร่างสูงคอยลูบแผ่นหลัง
“ฉันเกลียดแก”พ่นถ้อยคำใส่หน้าร่างสูงทันทีที่ผละกายออกห่าง เขาไม่เข้าใจหวังจื่ออี้...ทำไมมันถึงมาทำดีกับเขา ทั้งที่เมื่อคืนมันทำเรื่องแย่ๆเลวๆไว้กับเขาตั้งมากมาย
 “ครับ ผมทราบดี”มันคงจะไม่ยากเกินความสามารถของเขา หากจะเปลี่ยนคำว่าเกลียด ของช่ายสวีคุนให้กลายเป็นคำว่า รัก
  “กลับไปกับผมก่อนนะ ถ้าคุณกลับบ้านไปตอนนี้ผมเกรงว่า... ถ้าคุณยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเพิ่งผ่านอะไรมาน่ะนะ”ร่องรอยบนตัวของช่ายสวีคุน มันเป็นหลักฐานชั้นดีเลยล่ะว่าอีกฝ่ายเพิ่งถูกใครสักคนข่มขืน
“แกมาทำดีกับฉันทำไม!”
“แค่อยากรับผิดชอบ”จื่ออี้ใช้มือข้างนึงประคองใบหน้าของสวีคุน ก่อนจะใช้ก้านนิ้วยาวเกลี่ยน้ำตาบนแก้มขาวเนียน ชายหนุ่มระบายยิ้มอบอุ่น ขณะที่กำลังวางแผนชั่วร้ายในหัว
.
.
.
.
.
จื่ออี้อุ้มคนตัวเล็กมาที่รถของอีกฝ่าย หลังพยายามเกลี่ยกล่อมอยู่นาน เขาตั้งใจจะพาสวีคุนกลับไปยังที่พักของเขา ซึ่งมันก็เสี่ยงอยู่พอสมควร หากว่าสวีคุนไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวต่อเขาจริงๆตามที่เขาคาดคิดไว้ อีกฝ่ายต้องพาลูกสมุนมาฆ่าเขาที่ห้องแน่ถ้าหายดีแล้ว
“ฉันอยากกลับบ้าน!”ร่างเล็กเอ่ยประท้วง ดวงตาสวยตวัดมองซีกหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกขุ่นมัวในใจ นี่มันบ้ามาก บ้าที่สุด! เขายอมนั่งรถมาพร้อมกับหวังจื่ออี้ มันบอกเขาว่าจะพาไปที่ห้องเช่าของมัน ถ้าเขาหายดีเมื่อไหร่มันถึงจะปล่อยเขาไป อันที่จริงเขาควรจะรีบหาโทรศัพท์แล้วโทรแจ้งตำรวจซะ ไม่ใช่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่แบบนี้!
 “บอกแล้วไงว่าจะรับผิดชอบ ผมจะดูแลคุณจนกว่าคุณจะหายดี”
“แกมันบ้า! เมื่อคืนแกเกือบทำฉันตาย แล้วพอมาตอนนี้เกิดสำนึกอยากเป็นคนดีขึ้นมา บ้าบอเหอะ! บอกมานะว่าแกมีแผนชั่วอะไรอีก!!!”เขาไม่มีทางไว้ใจหรือเชื่อใจหวังจื่ออี้ได้อย่างสนิทใจ ไม่มีทาง!!!
“ถ้ากลับไปคุณจะบอกเรื่องที่ผมทำกับคุณให้เฉิงเฉิงรู้ไหม”หึ...ทำดีเพราะหวังผลจริงด้วยสินะ ไม่ได้อยากดูแลกันจริงๆสักหน่อย จู่ๆก็รู้สึกเจ็บจุกที่ใจขึ้นมาซะดื้อๆ 
ไม่!เขาต้องไม่หวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้ ช่ายสวีคุนแกห้ามทำตัวใฝ่ต่ำเหมือนฟ่านเฉิงเฉิงนะ ห้ามเด็ดขาด!!!
“ที่แกเปลี่ยนใจมาทำดีด้วยเพื่ออยากปิดปากฉันสินะ! ไอ้สารเลว!”จื่ออี้ไหวไหล่ไม่สนใจต่อคำด่าทอ ดวงตาคมกริบไม่แม้แต่จะชายตามองสวีคุนที่นั่งอยู่ข้างตำแหน่งคนขับ ตอนนี้อยากด่าอะไรเขาก็ด่าไปเถอะ เขาจะแกล้งทำเป็นหูทวนลมซะ เรื่องเฉิงเฉิงก็มีส่วน หากเขาไม่ปิดปากพี่ชายต่างมารดาของแฟนให้สนิท ช่ายสวีคุนต้องบอกเรื่องที่เขาข่มขืนอีกฝ่ายต่อฟ่านเฉิงเฉิงชัวร์ ที่สำคัญหลักฐานบนร่างกายของคนถูกกระทำมันชัดเจนคาตาเสียขนาดนี้ เขายังไม่อยากเลิกกับฟ่านเฉิงเฉิงตอนนี้หรอกนะ
“หายดีเมื่อไหร่ผมจะไม่รั้งคุณไว้เลย ระหว่างนี้ผมจะดูแลคุณเอง จะดูแลให้ดีที่สุด”
“ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ หวังจื่ออี้”พอๆกับที่ฉันไม่เข้าใจตัวเองในตอนนี้นั่นแหละ
.
.
.
.
.
“ค่อยๆนั่งนะครับ”ไม่ได้อยากจะพูดดีด้วยสักเท่าไหร่หรอก แต่เพื่อให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามแผนการ จื่ออี้ประคองร่างเล็กให้นั่งบนเตียง คนสวยมองสำรวจห้องเช่ากลางเก่ากลางใหม่ด้วยสายตาที่ไม่ปิดบังเลยสักนิดว่าจงใจดูถูก ภายในห้องไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากมายนัก มีแค่เตียง โซฟา ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทานข้าวกลางห้อง สวีคุนกอดอกอย่างระมัดระวังตัว ก่อนจะตวัดสายตาขุ่นมัวไปที่ร่างสูง
 “ฉันอยากอาบน้ำ”จื่ออี้ระบายยิ้ม ก่อนจะรีบไปหยิบเสื้อผ้าพร้อมด้วยผ้าขนหนูในตู้ใกล้เตียง ชายหนุ่มส่งให้ร่างเล็กรับไป สวีคุนพิจารณาเสื้อแขนยาวสีชมพูอ่อนเนื้อบางในมือกับบ๊อกเซอร์ลายตารางขาวดำ คนสวยเบะปาก
“ไม่มีเสื้อที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ ผ้าขนหนูนี่ฉันก็ไม่อยากใช้ร่วมกับนายนะ บอกตรงๆว่าขยะแขยง”
“ผมเลือกตัวที่ดีที่สุดเท่าที่ผมมีให้คุณแล้ว อีกอย่างผมไม่ค่อยจะใส่เสื้อผ้าสีแบบนี้เท่าไหร่ ส่วนผ้าขนหนูผมเพิ่งซื้อมา คุณดูป้ายมันสิยังมีติดอยู่เลย สบายใจขึ้นรึยังครับคุณหนู”ไม่อยากจะพูดเถียงต่อ คนตัวเล็กเดินกระเผลกไปที่ประตูห้องน้ำด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“ให้ผมช่วยอาบน้ำให้ไหม คุณอาบเองไหวรึเปล่า”ก่อนที่ประตูห้องน้ำจะถูกปิดลง จื่ออี้รีบตะโกนเอ่ยถาม
“ไม่ต้อง! ถ้าขืนแกเข้ามาฉันจะร้องให้คนมาช่วยจริงด้วย! ไม่มีทางที่ฉันจะไว้ใจแกจำไว้!!”
ปัง!!!!!!
ร่างสูงยกยิ้มมุมปาก เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง ดึงความสนใจจากชายหนุ่มให้เลิกมองไปที่บานประตูห้องน้ำด้วยประกายสายตาเจ้าเล่ห์ จื่ออี้รีบสาวเท้าไปกดรับสาย
 “ว่าไงครับคนดี คิดถึงพี่เหรอครับ”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่ม พลางสาวเท้าไปที่ระเบียง
 (ทำไมปิดเครื่อง เมื่อคืนผมโทรหาตั้งหลายสายหรือว่าแอบไปมีกิ๊ก! เมื่อไหร่พี่จะกลับมาปักกิ่ง ผมคิดถึงจะแย่แล้ว)
“....อีกสองสามวันน่ะ แล้วไม่ต้องกลัวว่าพี่จะไปแอบมีกิ๊กที่ไหนนะ พี่รักเราคนเดียว)เขาเคยโกหกเฉิงเฉิงไปว่ามาทำงานที่ต่างจังหวัด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้เรื่องที่เขาถูกครอบครัวของอีกฝ่ายส่งคนมารุมทำร้ายปางตาย มันคงไม่ดีเท่าไหร่หากคนรักต้องทะเลาะกับครอบครัวเพราะเขา
เขารักเฉิงเฉิงมาก สักวันนึงเขาอยากดีพอเพื่อคนรักของเขา อยากมีทุกอย่างให้ทัดเทียมฟ่านเฉิงเฉิง เพื่อที่ครอบครัวของอีกฝ่ายจะได้เลิกกีดกันพวกเขาสักที เคยวาดฝันไว้ว่าในสักวันเขาจะต้องได้แต่งงานกับเฉิงเฉิง และเขาจะต้องทำมันให้เป็นความจริงให้ได้ โดยจะใช้ช่ายสวีคุนเป็นบันได!
(ผมก็รักพี่...พี่จื่ออี้ ถ้ากลับมาเมื่อไหร่รีบโทรหาผมนะ ผมรีบจะไปหาพี่)
“โอเคครับ ไว้พี่จะซื้อถุงยางเตรียมไว้รอ”อาจจะมีแค่ฟ่านเฉิงเฉิงคนเดียวละมั้งในโลกนี้ ที่ทำให้เขายิ้มกว้างกว่าทุกคนที่เคยพบเจอมา
(ทะลึ่ง...แต่ซื้อมาเผื่อไว้หลายๆกล่องก็ดี คิกๆ ผมไม่กวนพี่แล้ว ตั้งใจทำงานนะครับ)ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ
.
.
.
.
.
“สวีทกันจังเลยนะ ฉันสมเพชชะมัดความรักจอมปลอมของพวกแกน่ะ”ช่ายสวีคุนทำให้เขาอารมณ์เสียได้เสมอ ถ้าฟ่านเฉิงเฉิงคือนางฟ้า ช่ายสวีคุนก็ไม่ต่างอะไรกับนางมารร้ายสำหรับเขาเลยสักนิด เป็นคนที่พรากความสุขของเขาให้จางหายไปภายในพริบตาเดียว
จื่ออี้พยายามสกัดกลั้นอารมณ์ไว้ ชายหนุ่มรีบปรับแววตาคุกรุ่นให้เป็นปกติอีกครั้ง จื่ออี้สาวเท้าไปใกล้ร่างเล็กที่มีผ้าขนหนูวางแหมะอยู่บนศีรษะ สวีคุนนั่งอยู่บนเตียงของเขาพร้อมกับพยายามจะเช็ดผมสีอ่อนที่เปียกชุ่ม พอมาอยู่ในเสื้อตัวนี้ของเขาร่างเล็กยิ่งโคตรน่ารังแก เสื้อแขนยาวเนื้อบางตัวใหญ่ปิดบ๊อกเซอร์ส่วนล่างเสียมิด ชายเสื้อสีหวานตกลงมาอยู่ที่กลางโคนขาอ่อนพอดี
“หิวรึยังครับ”ร่างเล็กรู้สึกขัดใจหน่อยๆที่ทำให้เจ้าของห้องอารมณ์เสียไม่สำเร็จ
“นิดหน่อย ฉันอยากโทรสั่งอาหารเอาโทรศัพท์แกมา”ดวงตาสวยจ้องไปที่โทรศัพท์ในมือร่างสูง แต่จื่ออี้ก็เลือกที่จะเก็บเครื่องมือสื่อสารไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง
“ผมจะต้มบะหมี่ให้”
“เอ๊ะ! ไม่ได้ยินที่ฉันบอกแกเมื่อกี้รึไง ฉันจะโทรสั่งอาหารเอาโทรศัพท์มาสิ!”คนสวยจิ๊ปากขัดใจ สวีคุนโยนผ้าขนหนูในมือใส่ร่างสูง ดวงตาสวยเต็มไปด้วยประกายเกรี้ยวโกรธ
“คุณมีเงินเหรอตอนนี้น่ะ ผมจะไปต้มบะหมี่ให้ทานรองท้องก่อน ตอนเที่ยงจะออกไปซื้อข้าวมาให้”มือเรียวที่กำหมัดจนแน่นทุบลงที่เบาะนอนข้างตัว ดวงตาสวยจ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังกว้างของคนที่กำลังเทก้อนบะหมี่ลงในถ้วยกระเบื้อง สวีคุนได้แต่ก่นด่าร่างสูงภายในใจ
.
.
.
.
.
ร่างเล็กทานบะหมี่พร้อมเจ้าของห้องจนหมดถ้วย ก่อนจะทานยาแก้ปวดกับแก้อักเสบตบท้าย ช่ายสวีคุนเดินกระเผลกกลับมาล้มตัวนอนบนเตียงที่ไม่ได้กว้างอะไรมากมายนัก
“เช็ดผมให้แห้งก่อนไหม เดี๋ยวจะเป็นไข้เอานะคุณ”จื่ออี้เดินมาล้มตัวนั่งข้างเตียงในมือมีผ้าขนหนู คนหน้าบึ้งจำต้องลุกขึ้นนั่งพิงพนักอย่างจำใจ สวีคุนขี้เกียจจะเถียงผู้ชายคนนี้ให้มากความแล้ว เขาเหนื่อย เขาอยากพักผ่อน อยากหายเป็นปกติเร็วๆ เพื่อที่เขาจะได้ไปให้พ้นๆจากห้องเท่ารูหนูนี้สักที
ตากลมโตเบือนหลบไปทิศทางอื่นขณะที่ชายหนุ่มใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้เขา เขาไม่ไว้ใจหวังจื่ออี้ พอๆกับไม่ไว้ใจหัวใจของตัวเอง มีไม่กี่วินาทีที่เผลอหันไปสบตาร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ ใจเขากำลังพองโต ปฏิเสธไม่ได้ว่าเผลอใจเต้นแรงกับความอ่อนโยนที่กำลังได้รับ สวีคุนภาวนาให้เส้นผมของเขารีบๆแห้งสักที! 
ขณะหลับตาเขารู้สึกตัวอยู่เสมอ ตอนที่หวังจื่ออี้ทายาแก้ฟกช้ำให้เขาตามจุดต่างๆบนร่างกาย หลังได้ยินเสียงคนลุกออกไปจากเตียงนั่นแหละเขาถึงจะวางใจและหลับได้อย่างสนิท
.
.
.
.
.
ช่วงกลางคืนช่างเป็นอะไรที่ร้อนมากสำหรับเขา อากาศยี่สิบกว่าองศาแต่สามารถทำให้เขาเหงื่อแตกซิกได้แล้ว หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ เขาก็รู้สึกอยากนอนต่อ อาจจะเป็นเพราะร่างกายทำปฏิกิริยากับยาที่ทานด้วยมั้ง แต่เขาดันนอนไม่หลับเนี่ยสิ ที่สำคัญห้องนี้ไม่มีแม้แต่พัดลมเลยสักตัว แถมทีวีก็เก่ากึกเปิดดูได้แค่ช่องที่มีแต่ข่าว ไม่รู้ว่าหวังจื่ออี้ทนอยู่ในห้องแคบๆไร้สิ่งอำนวยความสะดวกไปได้ยังไง ร่างเล็กพลิกกายไปมาด้วยอาการกระสับกระส่าย
“นายหลับรึยัง”เอ่ยถามหวังจื่ออี้ที่กำลังนอนหนุนหมอนใบเก่าอยู่บนพื้นใกล้เตียง
“ทำไมครับ คุณนอนไม่หลับเหรอ”ร่างสูงลุกขึ้นมาดูอาการ พร้อมทั้งแสดงสีหน้าว่าเป็นห่วง
 “อือ ฉันร้อน ร้อนจนนอนไม่หลับ”สวีคุนลุกขึ้นนั่งพิงพนักบ้าง พลางใช้มือเรียวคว้าคอเสื้อที่สวมสะบัดไปมาให้เกิดลม
“อากาศออกจะดี”
“นั่นมันสำหรับนายไง! แต่สำหรับฉัน ฉันร้อน!”ตวัดสายตาไม่พอใจมองหน้าร่างสูงท่ามกลางความมืดสลัว
“งั้นผมจะใช้หนังสือพิมพ์พัดให้ละกัน คุณนอนต่อเถอะ”พยักหน้าส่งๆไปก่อนจะล้มตัวลงนอน คนตัวเล็กรีบตะแคงตัวหันหน้าไปอีกฝั่ง เมื่อจื่ออี้ล้มตัวลงนั่งข้างเตียง ชายหนุ่มใช้กระดาษหนังสือพิมพ์พัดจนเกิดลมเย็นฉ่ำมาโดนร่างกายของเขา ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มพึงพอใจ แอบหันหน้าไปชำเลืองมองเป็นครั้งคราว เขาเห็นอีกฝ่ายยกมือขึ้นป้องปากหาวอยู่เป็นระยะ
โชคดีที่ห้องนี้มืดมากพอ แม้จะมีแสงไฟจากด้านนอกส่องเข้ามาบ้างรำไร หวังจื่ออี้จะได้ไม่สามารถมองเห็นแก้มของเขาว่าตอนนี้มันแดงเรื่อมากแค่ไหน ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่ เขาก็พอจะเข้าใจฟ่านเฉิงเฉิงแล้วล่ะ ว่าทำไมมันถึงได้หลงรักผู้ชายที่มีแต่ตัวคนนี้...
หวังว่าความหวั่นไหวบ้าบอนี่ที่กำลังเกิดขึ้นกับเขา มันจะไม่กลายเป็นความรักเข้าสักวันหรอกนะ


................
#คลั่งรักจื่ออี้ 🙁 อยากให้มาต่อเร็วๆเม้นต์+กดถูกใจนะคะ ถ้าติดแท็กในทวิตให้ด้วยจะขอบคุณมากๆ 😊 ใครเข้าใจอารมณ์น้องคุนบ้าง ไม่เคยมีใครมาทำอะไรแบบนี้ให้ และตัวเองก็ขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็กๆ พอได้รับจากจื่ออี้ ถึงจะเป็นคนที่เกลียดก็มีหวั่นไหวบ้างแหละ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น