วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561

#คลั่งรักจื่ออี้ 2


#คลั่งรักจื่ออี้

เกือบหนึ่งอาทิตย์เต็มๆที่เขาต้องนอนซมอยู่ภายในห้องเช่า เพราะไม่สามารถออกไปทำงานทั้งในสภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยฟกช้ำ อีกทั้งบาดแผลตามร่างกายก็ยังไม่หายดี เขาต้องหยุดเรียน และใช่เขาโดนร้านที่ทำงานส่งอาหารไล่ออกเพราะขาดงานติดกันหลายวัน ในช่วงสองสามวันแรกเขาแทบจะขยับตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ โชคยังดีที่เพื่อนสนิทของเขาซึ่งพักอยู่ห้องข้างๆกัน มันคอยซื้อข้าวซื้อยามาให้
ส่วนฟ่านเฉิงเฉิงคนรักของเขาอีกฝ่ายยังไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้เรื่องนี้ ตอนคุยโทรศัพท์กันเขาโกหกไปว่าต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ถ้าเฉิงเฉิงแวะมาหาเขาและเห็นเขาในสภาพแย่ๆแบบนี้อีกฝ่ายจะเสียใจซะเปล่าๆ และอาจจะผิดใจกับพวกญาติพี่น้องได้
เขาก็รู้นะว่าครอบครัวของคนรักไม่ชอบขี้หน้าเขา แต่ก็ไม่นึกเลยว่าจะรังเกียจเขาจนขนาดคิดฆ่าแกงกันเป็นผักปลา ถ้าวันนั้นไม่มีใครขับรถผ่านมาพบเขา ที่กำลังหายใจรวยรินรอความตายอยู่ข้างๆถนนใกล้กับป่ารกร้าง เขาอาจจะตายไปแล้วจริงๆนั่นแหละ เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายหลังฟื้นคืนสติพยายามกระเสือกกระสนร่างกาย ทั้งล้มลุกคลุกคลานออกมาจากป่าที่ทั้งชื้นแฉะและอากาศก็หนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจ ก่อนจะหมดสติไปอีกครั้ง
เขาฟื้นขึ้นมาในเช้าของวันถัดมาที่โรงพยาบาล ด้วยเพราะไม่มีเงินมากพอจ่ายค่ารักษา อีกทั้งเขาไม่อยากโทรไปหยิบยืมใคร นอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลได้เพียงสองวัน เขาก็ต้องพาร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลของตนเองกลับมาพักฟื้นที่ห้องเช่าแทน            
“ยาล้างแผลกับข้าวต้ม กูซื้อมาให้แล้ววางนี่นะ”จื่ออี้พยักหน้าขอบคุณเพื่อนสนิท หลินเยี่ยนจวิ้นวางของในมือลงที่โต๊ะกลางห้อง ก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนั่งที่เตียงข้างๆเขา            
“เป็นไงบ้างวะอาการดีขึ้นยัง หน้ามึงดีขึ้นกว่าวันก่อนเยอะนะ รอยช้ำก็ดูจางลงบ้างแล้ว”เยี่ยนจวิ้นพินิจพิเคราะห์ใบหน้าของเพื่อนสนิท มันไม่ได้บอกอะไรเขามากมายนัก แค่บอกว่ามีเรื่องกับพวกนักเลงหัวไม้เลยโดนซ้อม แต่ดูก็รู้ว่ามันน่าจะปิดบังอะไรบางอย่างกับเขา ตัวเขาเองไม่อยากไปเซ้าซี้อะไรมันมากตามประสาเพื่อนผู้ชายนั่นแหละ ถ้ามันอยากเล่าให้เขาฟังก็คงเล่าเอง            
“กูอยากทำงาน ผับมึงมีงานว่างไหมวะ”อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของฟ่านเฉิงเฉิง เขาอยากซื้อของขวัญดีๆให้อีกฝ่าย เพราะอย่างนั้นตอนนี้เขาจึงต้องเร่งเก็บเงินเป็นพิเศษ             
“เข้าใจว่าต้องกินต้องใช้ แต่...หน้ามึงกับแผลตามตัว กูว่าให้มันหายชัวร์ๆก่อนเหอะค่อยว่ากัน”          
“กูดีขึ้นแล้ว ใส่แมสไปทำงานก็ได้นี่หว่า มึงช่วยพูดกับเสี่ยให้หน่อยกูอยากทำงานที่ผับมึงจริงๆว่ะ”เยี่ยนจวิ้นมันทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่ผับกลางเมืองหรูหราใช้ได้เลยล่ะ ไหนๆเขาก็โดนที่ทำงานเก่าไล่ออกแล้ว ถ้าได้ทำงานในผับที่เพื่อนสนิทของเขาทำงานอยู่ก็คงดีไม่น้อย เขาไม่เกี่ยงงานหรือหน้าที่อยู่แล้ว ขอแค่ได้เงินเป็นพอ           
“มึงนี่จริงๆเลยนะ พักให้หายดีก่อนก็ไม่ได้จะขยันไปไหนวะ รีบเก็บเงินไปสู่ขอเมียรึไง”          
“กูจะเก็บเงินซื้อของขวัญวันเกิดให้แฟนกู”          
“ที่ขาวๆรวยๆอะนะ เขารักมึงจริงๆแน่เหรอวะ กูไม่เห็นทางเลยวะมึงกับเขาต่างกันเกินไปพูดตามตรง”จื่ออี้ชักสีหน้าใส่เพื่อนปากดี เยี่ยนจวิ้นส่งยิ้มแหยๆให้จื่ออี้ เมื่อรู้ว่าอีกคนเริ่มไม่พอใจกับคำพูดของเขา
“กูขอโทษว่ะ”            
“เออช่างมันเหอะ กูจะปล่อยผ่านแต่มึงต้องไปคุยกับเสี่ยเจ้าของผับให้เขารับกูเข้าทำงาน”          
“คืนนี้กูจะพูดกับเสี่ยให้ มึงก็กินข้าวกินยาเถอะ กูไม่กวนมึงแล้ว บาย”ร่างโปร่งผุดตัวลุกขึ้น พร้อมกับเอ่ยลาเพื่อนสนิท จื่ออี้พยักหน้ารับรู้            
.
.
.
.
.
น้อยครั้งที่ช่ายสวีคุนจะมาสถานที่อโคจรแบบนี้ หากมีเรื่องไม่สบายใจมากๆนั่นแหละเขาถึงจะมาดื่มที่นี่ เสียงเพลงจังหวะเบสหนักๆ ผู้คน และเหล้าดีๆ คงทำให้เขาลืมใครบางคนได้ไม่อยาก...เมื่อตอนเย็นเขาเพิ่งจะโดนรุ่นพี่ที่ตัวเองเคยแอบปลื้มบอกเลิก หึ...ทั้งๆที่เพิ่งจะลองคุยกันได้แค่สองเดือนเท่านั้น เป็นเขาที่เอ่ยขอโอกาสจากเจิ้งรุ่ยปินก่อน ทว่าสุดท้ายฝ่ายนั้นก็ให้เหตุผลในการเลิกรากลับมาว่ารับไม่ได้กับความเอาแต่ใจของเขา
มันก็เหมือนกับคนก่อนๆไม่มีผิด... หรือว่าเขาจะไม่เหมาะกับการมีแฟนจริงๆ เขาอิจฉาฟ่านเฉิงเฉิง เขาอิจฉามันมาก สวีคุนยังจำคำพูดของคนรักของน้องชายต่างสายเลือดได้ดี    
“ไม่มีทาง... แค่กๆ... กูไม่มีทางเลิกยุ่งกับเขา”
เจ็บเจียนตายขนาดนั้นหมอนั่นยังกล้าพูดคำๆนั้นออกมา....รักมันมากเลยรึไงฟ่านเฉิงเฉิงน่ะ!!! แล้วเขาล่ะจะมีใครบ้างในโลกนี้ที่จะรักเขาจนยอมตายได้.... เขาเกลียดฟ่านเฉิงเฉิงที่สุด มันได้ทุกสิ่ง...ที่เขาอยากได้ไปครอบครอง          
คนตัวเล็กนั่งดื่มเงียบๆคนเดียว บริเวณโซนวีไอพีบนชั้นสองของผับ ดวงตาสวยเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา สวีคุนมองลงไปด้านล่างที่เต็มไปด้วยนักท่องราตรี ซึ่งกำลังเต้นไปตามจังหวะของเสียงเพลงอย่างเมามัน ริมฝีปากสีเชอร์รี่แสยะยิ้มให้กับเรื่องราวที่ผ่านมาของตนเอง ก่อนจะยกแก้ววิสกี้ในมือขึ้นดื่มรวดเดียวหมด            
.
.
.
.
.
หวังจื่ออี้กำลังพิจารณารูปร่างและซีกหน้าของใครบางคน ถ้าเขาจำไม่ผิด...ช่ายสวีคุนพี่ชายของฟ่านเฉิงเฉิง ยิ่งขยับปลายเท้าเข้าไปใกล้ เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าต้องใช่แน่ๆ และมันก็จริงอย่างที่เขาสันนิษฐานไว้
ร่างสูงพยายามข่มอารมณ์ไว้ มือหนาจิกกำถาดที่ตัวเองถือจนบริเวณหลังฝ่ามือขึ้นเป็นเส้นเลือดปูดโปน เขาใส่ทั้งหมวกแก๊ปและแมสปิดหน้า ไม่มีทางที่ช่ายสวีคุนจะจำเขาได้ ดวงตาแข็งกร้าวจดจ้องไปที่ร่างเล็ก บริเวณนี้ไม่ค่อยมีใครมานั่งดื่มกันหรอกเพราะเป็นโซนวีไอพี มีลูกค้ากระเป๋าหนักแค่ไม่กี่โต๊ะเท่านั้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่จะนั่งกินดื่มและเต้นกันที่โซนด้านล่าง เขามาทำงานที่นี่ได้สามวันแล้ว ต้องขอบใจไอ้เยี่ยนจวิ้นที่ช่วยพูดกับเสี่ยเจ้าของผับจนตกลงรับเขาเข้าทำงาน            
ร่างสูงวางขวดวิสกี้ราคาเหยียดแสนหยวนลงบนโต๊ะของคนตัวเล็ก ทว่าสายตาของชายหนุ่มอดที่จะสำรวจไปทั่วเรือนร่างพี่ชายต่างสายเลือดของคนรักไม่ได้ ช่ายสวีคุนในชุดตาข่ายซีทรูสีดำสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน กับกางเกงรัดรูปมีรอยขาดบริเวณขาอ่อนและหัวเข่าโชว์ผิวเนื้อขาวเนียน ลำคอระหงประดับด้วยโชคเกอร์เส้นเล็กๆสีดำ ยิ่งช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ร้อนแรงให้กับอีกฝ่าย ยอมรับว่าเขาเผลอไผลไปมากกับรูปลักษณ์ภายนอกของช่ายสวีคุน จนเผลอมองอย่างไม่วางตา กระทั่งได้ยินเสียงจากร่างเล็กเขาถึงได้หลุดออกมาจากภวังค์            
“ไสหัวของแกไปได้แล้ว เกะกะสายตา!”นางมารร้ายก็ยังเป็นนางมารร้ายอยู่วันยันค่ำนั่นแหละ หึ... ชายหนุ่มค้อมศีรษะ ก่อนจะเดินล่าถอยออกมา           
ถ้าเขาปล่อยเนื้อชิ้นนี้ไป...เขาก็คงโง่เต็มที! ในเมื่อเหยื่อมันมารอให้เขาขย่ำถึงที่ คืนนี้เขาจะสอนให้ช่ายสวีคุนรู้ว่าเขามันเลวและชั่วได้มากแค่ไหน... เขาจะตอบแทนสิ่งที่คนสวยเคยทำไว้กับเขาอย่างสาสมที่สุด หวังจื่ออี้จุดยิ้มมุมปาก ขณะที่ดวงตาคมจ้องมองไปแผ่นหลังบางของช่ายสวีคุน
.
.
.
.
.
“เอามา!”เยี่ยนจวิ้นส่ายหน้าปฏิเสธ นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่หวังจื่ออี้มันเอ่ยขอบางอย่างกับเขา ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ ร่างโปร่งเห็นเพื่อนสนิทเริ่มโมโหมากยิ่งขึ้น            
“บอกเหตุผลกูมาก่อน ทำไมมึงถึงอยากได้มัน”มันในที่นี้คือยาปลุกเซ็กส์ และใช่เขามีมันติดตัว แต่เขาก็ไม่เคยใช้ยาชนิดนี้กับคนอื่นนอกจากแฟนตัวเองหรอกนะ อาจจะดูขัดแย้งกับบุคลิกภายนอกของเขาเสียหน่อยที่ดูเป็นคนสุภาพ เพราะเขามีรสนิยมชอบมีเซ็กส์แบบรุนแรง ไม่แปลกที่จะมีของเล่นชนิดนี้ติดตัว และไอ้จื่ออี้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนของเขามันก็รู้เรื่องนี้ดี            
“มึงเห็นคนๆนั้นไหม....คนที่ใส่แจ็คเก็ตสีน้ำเงิน”เขามองไปตามสายตาของเพื่อนสนิท ดวงตาของมันแข็งกร้าวขึ้นเวลามองไปที่คนๆนั้น
“ทำไมวะ ดูสวยเซ็กซี่ดีนี่หว่า มึงสนใจเขาเหรอต้องใช่แน่ไม่งั้นมึงไม่ขอยาปลุกจากกู แต่มึงมีน้องเฉิงแล้วนะเว้ยไหนว่ามึงรักแค่น้องเฉิงไงวะ คิดจะนอกใจน้องเขารึไงไอ้เชี่ย”ยิ่งเป็นแบบนี้เขายิ่งไม่มีทางให้ยาปลุกกับมัน            
“กูไม่เคยคิดนอกใจแฟนกู...แต่กูอยากแก้แค้น คนที่ทำให้กูมีสภาพไม่ต่างจากหมาข้างถนนในวันนั้น กูเกือบตายก็เพราะมัน มึงจะให้กูปล่อยมันไปง่ายๆเหรอวะ มึงรู้ไหมตอนนี้กูอยากฆ่ามันมากแค่ไหน กูไม่ใช่คนดี...มึงก็น่าจะรู้ และกูก็รู้ว่ามึงไม่ใช่คนดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเอายามาให้กูเดี๋ยวนี้”            
“....”เขาสบตากับเพื่อนสนิทที่มีแมสปิดบังใบหน้าไปครึ่งนึง สลับกับหันไปมองคุณคนสวย ก่อนจะตัดสินใจเปิดลิ้นชักหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่เขากำลังทำงานอยู่ หยิบบางสิ่งบางอย่างที่เพื่อนของเขาต้องการส่งให้มันรับไป จื่ออี้ส่งยิ้มขอบคุณให้เขา เขาพยักหน้าส่งๆให้มันไปครั้งนึง กรรมใดใครก่อละกัน... หวังว่าไอ้จื่ออี้มันจะมีเมตตากับคุณคนสวยบ้าง ไม่เยจนตายคาเตียงน่ะนะ หึ...            
.
.
.
.
.
หวังจื่ออี้ใช้จังหวะที่ช่ายสวีคุนลุกจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำ เขานำแก้วเหล้าที่มียาปลุกเซ็กส์เคลือบอยู่ตรงก้นไปสลับสับเปลี่ยนกับแก้วของอีกฝ่าย จากนั้นก็แค่รอคอยให้มันออกฤทธิ์...            
ช่ายสวีคุนนิ่วหน้าเล็กน้อย เพราะรสชาติของวิสกี้ที่ได้ลิ้มลอง...มันแตกต่างจากก่อนหน้าที่เขาจะไปเข้าห้องน้ำ หรือว่าเขาดื่มมันเยอะเกินไป ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามันขมขึ้นน่ะ เขาคิดมากเกินไปรึเปล่า... มือเรียวรินเหล้าชั้นดีใส่แก้วและดื่มมันอีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีใครลอบมองเขาจากอีกมุมนึง หวังจื่ออี้แสยะยิ้มร้ายกาจ
คืนนี้ช่ายสวีคุนต้องชดใช้ให้เขาอย่างสาสม
“...แปลกมาก”มือขาวยกขึ้นมานวดเบาๆที่ลำคอของตนเอง เขารู้สึกร้อนวูบวาบในร่างกายขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทั้งๆที่แอร์ก็เย็นจัดขนาดนี้          
“...ฮึก”คนตัวเล็กครางในลำคอเมื่อเขาเริ่มรู้สึกถึงความต้องการบางอย่าง เขาควรออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เขามั่นใจว่ามันไม่น่าจะเกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อย่างเดียวแน่นอน สวีคุนรู้สึกถึงอันตราย มือเรียวที่มีอาการสั่นน้อยๆรีบหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์ และจัดการวางมันลงบนโต๊ะ เม็ดเหงื่อผุดพรายไปทั่วกรอบหน้าสวย คนตัวเล็กพยายามจะเดินออกไปจากผับแห่งนี้ ตอนนี้ร่างกายของเขามันอ่อนปลวกเปียกราวกับขี้ผึ้งโดนไฟ
เดินออกมาจากโต๊ะที่เคยนั่งได้เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็รู้สึกหน้ามืด ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นไหมสีบลอนด์เทาขยับสั่นไปมาหวังเรียกสติตัวเอง แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผลเอาเสียเลย สวีคุนหอบหายใจแรง ดวงตาพร่าจนเขาแทบจะมองไม่เห็นภาพเบื้องหน้าด้วยซ้ำไป ในขณะที่ช่ายสวีคุนยืนโอนเอนใกล้จะล้มอยู่นั้น มือหนาของใครบางคนก็เข้ามาประคองเอวของร่างเล็กไว้ คนสวยสะบัดใบหน้าหันไปมองด้วยความตกใจ            
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!”สบถเสียงลอดไรฟัน มือเรียวพยายามปัดมือแกร่งให้ออกไปจากเอวของเขา ถ้าจำไม่ผิดผู้ชายตัวสูงคนนี้น่าจะเป็นคนที่เคยเอาเหล้ามาเสิร์ฟให้กับเขา เขาจำได้ว่ามันใส่แมสปิดหน้า สวีคุนสั่นศีรษะไล่ความมึนเมา และเพื่อให้สามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น            
“บอกให้ออกไปให้พ้นไง! แกอยากโดนไล่ออกรึไงห๊ะ!”คนตัวเล็กตะโกนโวยวาย อีกทั้งยังถลึงตาอย่างไม่พอใจ แต่ไม่ว่ายังไงพนักงานเสิร์ฟคนนี้ ก็ไม่ยอมปล่อยมือของมันออกจากร่างกายเขา ส่งผลให้ช่ายสวีคุนมีอารมณ์คุกรุ่นยิ่งขึ้น            
“ให้พนักงานของเราช่วยประคองคุณลูกค้าไปส่งที่รถเถอะนะครับ”เยี่ยนจวิ้นรีบเดินมาแก้ไขสถานการณ์ สองเพื่อนรักส่งซิกให้กันผ่านทางสายตา            
“เจ๋อไม่เข้าเรื่อง! ฉันเดินเองได้ปล่อย…เอามือสกปรกของแกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”คราวนี้จื่ออี้ทำตามคำสั่งแต่โดยดี เขาอยากรู้เหมือนกันว่าช่ายสวีคุนจะอวดดีไปได้สักกี่น้ำ เหอะ!            
“โอ้ยยยย!!!!”พอเขาปล่อยมืออีกฝ่ายก็ล้มลงทันที สมน้ำหน้าชะมัด จื่ออี้กับเยี่ยนจวิ้นตั้งใจจะเข้าไปช่วยประคองร่างเล็ก ทว่าสวีคุนกลับปัดมือของพวกเขาสองคนออกพร้อมทั้งก่นด่า            
“นี่พวกแกรวมหัวกันแกล้งฉันใช่ไหม! ถอยไป!!”พยายามพยุงตัวเองขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเล สวีคุนเอนตัวไปชนเก้าอี้เหล็กจนมันล้มลงและเกิดเสียงกึกก้อง สายตาจากโต๊ะอื่นๆมองตรงมาที่คนสวยในชุดตาข่ายซีทรูเป็นสายตาเดียว สวีคุนรีบจับโต๊ะไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลงไปอีกครั้ง ร่างกายของเขามันร้อนวูบวาบไปหมด เม็ดเหงื่อผุดพรายไปทั่วร่าง เขารู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่ทั้งรุนแรงและถี่รัว นี่ร่างกายเขามันเป็นบ้าอะไรกัน!!!                       
“เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงกลับไปทำงานของมึงต่อเถอะ วันนี้กูขอลางานนะเว้ย”ร่างสูงกระซิบบอกร่างโปร่ง เยี่ยนจวิ้นพยักหน้ากลับมา จากนั้นบาร์เทนเดอร์หนุ่มก็กลับไปเช็ดแก้วที่เคาน์เตอร์บาร์ต่อ
.
.
.
.
.
หวังจื่ออี้จัดการอุ้มร่างเล็กในท่าเจ้าสาว ก่อนจะสาวเท้าเดินลงบันไดมายังชั้นล่าง ตลอดทางที่ก้าวเดินจนมาถึงลานจอดรถเขาได้รับทั้งกำปั้น รวมถึงถ้อยคำด่าทอจากช่ายสวีคุน จื่ออี้พยายามอย่างถึงที่สุดในการข่มอารมณ์ตัวเองไว้ แล้วเขาจะทบต้นทบดอกกับช่ายสวีคุนที่เตียงของเขาในคืนนี้!       
“ปล่อย!!! แกกล้ามากที่ทำกับฉันแบบนี้ พรุ่งนี้ฉันจะโทรคุยกับผู้จัดการผับ แกเตรียมตัวโดนไล่ออกได้เลย”ก่อนจะโทรไปคุยกับผู้จัดการ ตอนนี้เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะช่ายสวีคุน ชายหนุ่มจดจ้องไปที่ใบหน้าของคนที่อยู่ภายในอ้อมแขนของเขาด้วยสายตาเกรี้ยวกราด ก่อนจะพยายามข่มน้ำเสียงตัวเองให้เป็นปกติ แล้วเอ่ยถามตำแหน่งที่อีกฝ่ายจอดรถไว้          
“รถของคุณล่ะ...ผมจะได้พาไปส่งถูก”เสียงนี้...เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาอย่างบอกไม่ถูก แต่ด้วยสติที่เหลืออยู่ไม่มาก เขาขี้เกียจจะนึกอะไรให้มากความ เขาอยากกลับบ้านเต็มแก่แล้ว ถ้าได้อาบน้ำอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายเขามันคงจะดีขึ้นบ้าง ยิ่งโดนแตะเนื้อต้องตัวแบบนี้เขายิ่งรู้สึกร้อนรุ่ม สวีคุนตัดสินใจบอกตำแหน่งรถพร้อมเลขทะเบียน ผ่านไปไม่กี่นาทีชายหนุ่มก็หยุดชะงักปลายเท้าด้านหน้ารถเมอร์เซเดสเบนซ์สีแดงเพลิง หวังจื่ออี้ปล่อยช่ายสวีคุนให้เป็นอิสระ คนตัวเล็กใช้กระโปรงหน้ารถช่วยพยุงตัว            
“กลับไปซะสิ! หมดหน้าที่ของแกแล้วนิ!”เขาเกลียดสายตาของผู้ชายคนนี้ มันมองเขาราวกับว่าตัวมันอยู่เหนือกว่าเขา ทั้งๆที่มันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟกระจอกๆ ที่สำคัญเหมือนกับว่ามันจะไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวต่อสิ่งที่เขาทั้งก่นด่าและข่มขู่มันเลยสักนิด ไม่เลย! สวีคุนหมุนตัวเดินมาที่ประตูรถด้วยความรู้สึกหงุดหงิด แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้สอดตัวเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับ           
ผั้วะ!!!!
“อั่ก!!! โอ้ยยยย!!!”เจ็บจุกที่ท้องจนทรงตัวยืนต่อไปไม่ไหว มันดึงไหล่เขาจากทางด้านหลัง แล้วต่อยเข้าที่หน้าท้องของเขาเต็มๆแรง คนตัวเล็กส่งเสียงร้องโอดครวญอยู่ที่พื้น ดวงตาสวยหรี่พับลงด้วยความเจ็บ เขาเห็นมันถอดแมสออก และย่อตัวลงตรงหน้าเขา ดวงตาสวยเบิกกว้างขึ้นทันที            
“แก...ฮึก..ไอ้...ไอ้จื่ออี้!”            
“เออ กูเอง...ตกใจมากเลยสิที่เห็นว่ากูยังไม่ตายอย่างที่มึงตั้งใจ!”สวีคุนถูกมือหนากระชากศีรษะขึ้นจากพื้น 
“มองกูให้เต็มตาสิ! มอง! นี่คือสิ่งที่มึงเคยทำไว้กับกูไง!!”ร่างเล็กส่ายหน้าระรัว ช่ายสวีคุนนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดจากทั้งที่หน้าท้อง และที่ศีรษะซึ่งมีมือหนาดึงกระชากเส้นผมของเขา ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยร่องรอยฟกช้ำ และมีบาดแผลบางส่วนที่ยังไม่หายดี ปรากฏชัดเต็มสองตาของเขา
ตั้งแต่เกิดมาช่ายสวีคุนไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวใครมากขนาดนี้มาก่อน... เขาทั้งรู้สึกหวาดกลัวและเกลียดชังไปพร้อมๆกัน หยาดน้ำตาเอ่อคลอทั้งสองดวงตาสวย ทว่าจื่ออี้กลับไม่ได้รู้สึกสงสารคนตัวเล็กแม้แต่น้อย
เขายังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ ช่ายสวีคุนเป็นเมียเขาเมื่อไหร่นั่นแหละ...เขาจะสั่งสอนให้อีกคนรู้ว่าความเจ็บปวดจริงๆมันเป็นยังไง!!
“ฮรึก..ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยด้วย!!”จื่ออี้รีบใช้ผ้าเช็ดหน้าของเขาที่อยู่ในกระเป๋าด้านหลัง ตะปบเข้าที่ริมฝีปากและจมูกของคนสวย ไม่นานนักร่างเล็กที่พยายามดิ้นขัดขืนก็ค่อยๆหมดสติไป ดีนะที่เขาเตรียมการมาอย่างดี หึ... ชายหนุ่มจัดการอุ้มช่ายสวีคุนมายัดใส่รถฝั่งข้างคนขับ ก่อนเขาจะขับรถออกมาจากผับและเลี้ยวไปในเส้นทางที่เขาคุ้นเคยดี
​​
....................................
#คลั่งรักจื่ออี้
น้องคุนจะโดนเปิดซิง...??



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น